คนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล สามารถประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี จากที่ตั้งเป้าเดิมไว้ 3 ปี พร้อมชูปัจจัยแห่งความสำเร็จ ทั้งจุดแข็งในด้านความพร้อมในการผลิต จัดจำหน่าย และกระจายสินค้าและที่สำคัญคือความเชื่อมั่นในศักยภาพของผลิตภัณฑ์และศักยภาพของคนในองค์กร พร้อมเร่งเครื่องลุยตลาดอาเซียนเต็มสูบ ตอบวิสัยทัศน์ 2020 ในการเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคอาเซียน
มร.เอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า "ช้าง" รูปลักษณ์ใหม่ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งด้านผลประกอบการที่สามารถสร้างกำไรสุทธิ (Net profit) ให้กับธุรกิจเบียร์เติบโต238.8% และสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจของผู้บริโภค นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญของเบียร์ช้าง ที่สามารถครองใจผู้บริโภค และถึงเป้าหมายของตัวเองได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีของการปรับโฉม โดยอ้างถึงผลสำรวจของ IPSOS บริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลก มีการวิจัยเพื่อตรวจสุขภาพแบรนด์ (Brand Equity) พบว่าผู้บริโภคมีความรู้สึกเชิงบวกกับ "แบรนด์ช้าง" หลังการปรับโฉมมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องผลิตภัณฑ์สีเขียวที่สะท้อนถึงความสดชื่น ทันสมัย และพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น จากนี้ยังพบว่าผู้บริโภครับรู้ (Aware) ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จากการบอกปากต่อปาก (word of mouth) จากเพื่อนและคนใกล้ชิดมากกว่าสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบอื่น
"เบื้องหลังความสำเร็จของช้าง คือความกล้าที่จะเปลี่ยน เพราะเราเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ รวมไปถึงจุดแข็งในด้านความพร้อมในการผลิต จัดจำหน่าย และกระจายสินค้า และที่สำคัญคือความเชื่อมั่นในศักยภาพของผลิตภัณฑ์ของเบียร์ช้าง ในฐานะเบียร์ที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ด้วยภาพลักษณ์ รสชาติ ที่ครองใจผู้บริโภคทุกยุคสมัย ตลอดจนได้รับการยอมรับในระดับสากล และเรายังเชื่อมั่น
ศักยภาพของคนในองค์กร ที่มองเห็นภาพของแบรนด์เป็นอันหนึ่งอันเดียว ทั้งนี้เป้าหมายต่อไป คือการนำพา "ช้าง" ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดเบียร์ทั้งไทยและอาเซียนอย่างเต็มภาคภูมิ ภายในปี 2020 ตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นไปได้ โดยได้วางกลุ่มเป้าหมายในการสื่อสารระดับสากล ซึ่งช้างจะมีกิจกรรมและนวัตกรรมที่น่าสนใจมาสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องแน่นอน" มร.เอ็ดมอนด์ กล่าว