โดยผู้บริหารหนุ่มกล่าวว่า ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั้น ถือเป็นตัวทำรายได้หลักปัจจุบัน 60% ขณะนี้มีงานก่อสร้างที่เซ็นสัญญางานเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท รวมโปรเจ็กท์ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างที่ 2,000 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าการขยายและจับจองพัฒนาที่ดินออกไปให้กว้างขึ้นจาก 100 ไร่เป็น 300 ไร่ต่อปี
ส่วนด้านการผลิตงานโปรดักชั่น ทำรายได้ให้ 20% ภายในสิ้นปีนี้ทางบริษัทจะผลิตรายการวาไรตี้ออกมาให้ได้รับชมในจอทีวีเอง 1 รายการ หลังจากรับจ้างผลิตมาได้ระยะหนึ่ง พร้อมกับเริ่มให้ความสำคัญไปกับธุรกิจออนไลน์เพิ่มขึ้น ทั้งเรื่องของการทำตลาด การจัดจำหน่ายสินค้า และวางรากฐานสร้างนักธุรกิจใหม่ๆขึ้นมาในองค์กร ที่ผลิตแอพพลิเคชั่นเน้นเจาะเชียลเน็ตเวิร์กผ่านโทรศัพท์มือถือ รับกับกระแสผู้บริโภคปัจจุบัน "ส่วนใหญ่เราจะต่อยอดธุรกิจจากบริษัทเดิม ด้วยการเพิ่มงาน เพิ่มการลงทุนใหม่"
ในกลุ่มอาหารเสริมจะผลิตสินค้าใหม่เน้นไลน์ของสุขภาพ มากกว่าแฟชั่นที่มาเร็วไปเร็ว เพื่อจับตลาดแมสเพิ่มขึ้นจากที่กลุ่มเป้าหมายเดิมจะเป็นลักษณะb2bเป็นส่วนใหญ่ และล่าสุด! ได้นำเข้าและสร้างแบรนจิวเวอรี่ ที่เป็นลักซัวรี ไอเท็มเข้ามาทำตลาดแบบไฮเอนด์ โดยการออกบูธโชว์สินค้าต้นแบบให้ลูกค้าเลือกสั่ง จากนั้นทางบริษัทจะวัดขนาดแล้วสั่งผลิต นำเข้าจากเบลเยียม
และนอกจากการดำเนินธุรกิจแล้ว "ต้น สุรยุทธ" ยังได้ผุดโปรเจ็กท์ Height โฟโต้บุ๊ค ทำประโยชน์คืนสังคม เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงวิกฤตโลกร้อน ผ่านงานแฟชั่นอาร์ต ที่ได้ 50 เซเลบริตี้ รุ่นใหม่มาเข้าร่วมและเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมประมูลภาพ นำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายช่วยเหลือไปยังมูลนิธิเพื่อการพัฒนาคณะแพทย์ศาสตร์ มศว. และบ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน ซึ่งคาดว่าจะจัดโครงการลักษณะนี้ขึ้นอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
"ในแต่ละปีเราจะมีการทำการกุศลบริจาคและช่วยเหลือสังคมโดยการ จัดงานคอนเสิร์ตเพื่อการกุศลเรนโบว์ บริจาคเงินให้มูลนิธิเพื่อการพัฒนาคณะแพทย์ศาสตร์ มศว. ส่วนในปีนี้จึงได้ชักชวนเหล่าเซเลบริตี้มาร่วมกัน จากเมื่อก่อนที่ทำแค่คนเดียว ตอนนี้ได้ชักชวนกันเพื่อจะได้ช่วยเหลือสังคมได้มากขึ้น เพราะเซเลบริตี้แต่ละคนมีความพร้อมทั้งหน้าตาและความสามารถและชื่อเสียงในวงสังคม การที่เรามารวมตัวกันก็ยิ่งจะสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้มากขึ้น"
โดยโปรเจ็กท์ Height โฟโต้บุ๊คครั้งนี้จะมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ "ลดโลกร้อน วิกฤติที่คนลืมไป" ที่ตอกย้ำเตือนทุกคนผ่านงานศิลปะโฟโต้บุ๊ค ที่นอกเหนือจากความงามของภาพซึ่งแฝงไปด้วยความหมายต่างๆแล้ว กระดาษที่ใช้ในการตีพิมพ์เป็นกระดาษหนาอย่างดีจากต่างประเทศ ช่วยให้ภาพมีอายุนานถึง 100 ปี