นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้นำในธุรกิจเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบ และผู้บริหารร้านค้าปลีกสินค้าไอทีครบวงจรภายใต้ชื่อ เจไอบี (JIB) ร้านค้าปลีกสินค้าไอทีไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมี่ยมภายใต้ชื่อ mine และ JIB Online ร้านค้าไอทีไลฟ์สไตล์ ช้อปได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่าน www.jib.co.th เปิดเผยถึง การขยายธุรกิจค้าปลีกไอทีในไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ว่า มั่นใจว่าธุรกิจไอทียังเติบโตได้ดีท่ามกลางกระแสกำลังซื้อหดตัว เนื่องจากสินค้าในกลุ่มไอทีถือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการประกอบอาชีพ และเป็นอุปกรณ์สำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันในปัจจุบัน ดังนั้นจึงยังเดินหน้าขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับภาพลักษณ์ใหม่ที่เน้นจำหน่ายสินค้าคุณภาพระดับกลางบนมากยิ่งขึ้น โดยในต้นเดือนตุลาคมนี้จะเปิดสาขาใหม่ใน 3 ทำเลทอง คือ ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ท มอลล์, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น
"ในเดือนตุลาคมนี้ เราเตรียมเปิดสาขาใหม่ของร้าน mine และ JIB ใกล้เคียงกันถึง 3 สาขา โดย mine
ร้านค้าปลีกสินค้าไอทีไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมี่ยมจะเปิดที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยว และลูกค้าในพื้นที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนร้าน JIB ในภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยและสอดรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้นจะเปิดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เพื่อขยายฐานไปยังลูกค้ากลุ่มกลางบนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้ากลางบนไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยขอนแก่นเป็นหัวเมืองขนาดใหญ่ที่ลูกค้ามีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกับลูกค้าในกรุงเทพฯ ซึ่งเชื่อว่าภาพลักษณ์ใหม่ของร้านJIB จะได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างดี ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับร้าน JIB สาขาอื่นๆ ที่เปิดในเครือเซ็นทรัลก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะสาขาเซ็นทรัล เวิลด์ ที่เปิดก่อนหน้านี้พบว่าลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้การต้อนรับล้นหลาม จนกลายเป็นร้านที่ทำรายได้อยู่ในอันดับต้นๆ ของบริษัทในปัจจุบัน"
นายสมยศกล่าวอีกว่า ธุรกิจค้าปลีกไอทีของ เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป ที่เติบโตแบบสวนกระแสเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับภาพลักษณ์ร้านใหม่ ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ารุ่นใหม่ และกลุ่มลูกค้าระดับกลางบนมากยิ่งขึ้น ทำให้ทั้งคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจมอบความไว้วางใจและโอกาสให้ เจ.ไอ.บี.ได้เปิดร้านกับแบรนด์สินค้าเพิ่มขึ้น และเปิดสาขาใหม่ๆ ในทำเลที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งสาขา JIBในปัจจุบันได้ปรับปรุงการบริหารจัดการใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ทุกสาขาสร้างรายได้ตามเป้าหมายและให้บริการหลังการขายที่มีคุณภาพ สามารถรองรับการแข่งขันและความต้องการของลูกค้าได้อย่างคล่องตัวตามสไตล์ของเจ.ไอ.บี.ที่มักจะให้ลูกค้าได้มากกว่าอยู่เสมอทั้งโปรโมชั่นและการให้บริการก่อนและหลังการขาย และคาดว่าสาขาที่เปิดใหม่นี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ยอดขายและกำไรของ เจ.ไอ.บี.ในปี 2559 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้