นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังคงผันผวน ส่วนตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวในกรอบแคบๆ อาจมีโอกาสปรับเป็นบวกเล็กน้อย จากกรณีประเด็นเรื่อง ดอยช์ แบงก์ ที่น่าจะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เรื่องจำนวนค่าปรับที่ทางธนาคารต้องจ่ายให้ทางการสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน ตลาดหุ้นทั้งโลกจะยังผันผวนอยู่ ทั้งนี้ บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินว่า จำนวนค่าปรับไม่น่าจะถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนักวิเคราะห์ในสหรัฐฯ มองว่าค่าปรับจะอยู่ระหว่าง 6,000-14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่า ดอยช์ แบงก์ คงต้องรีบเพราะหากเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้วยังตกลงเรื่องค่าปรับไม่ได้ ความไม่แน่นอนจะยิ่งมากขึ้นเป็นผลเสียต่อธนาคาร
นอกจากนี้ ในสหรัฐฯ ยังมีธนาคารอื่นที่กำลังประสบปัญหาใหญ่ด้านการจัดการเช่นกันเช่น Wells Fargo ทั้งนี้ในกรณีของดอยช์ แบงก์ รัฐมนตรีคลังของออสเตรีย ประเมินว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการบริหารงานที่ไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ ไม่ใช่เพราะมีปัญหาทางด้านการเงิน จึงมองว่าเป็นความเสี่ยงเฉพาะธนาคารไม่ใช่ทั้งระบบและน่าจะเป็นปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น
ด้านตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมของทางการจีนเดือน ก.ย.ที่ออกมาทรงตัว 50.4 เท่ากับในเดือน ส.ค.ถือว่าดี เพราะยืนเหนือระดับ 50 อันบ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน เป็นบวกต่อตลาดหุ้น แต่เนื่องจาก สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจีนปิดทำการทั้งสัปดาห์เนื่องจากเป็นสัปดาห์วันชาติจีน จึงทำให้ไม่ค่อยมีผลเท่าไรนักต่อหุ้นจีน
ด้านปัจจัยภายในประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น ดังนั้น คำแนะนำในการลงทุน ให้เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและปันผลดี เพราะเราประเมินว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะทยอยฟื้นตัว ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อหุ้น BDMS ของ บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ ราคาเป้าหมาย 32 บาท จากการคาดการณ์ว่ากำไรจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังและทิศทางในระยะยาวจะยิ่งสดใส แม้ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/59 จะลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก (QoQ) เนื่องด้วยเทศกาลถือศีลอดในประเทศมุสลิมในตะวันออกกลางที่ทำให้จำนวนคนไข้จากตะวันออกกลางลดลง แต่เราคาดว่ากำไรของBDMS จะกลับมาดีขึ้นอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีต้อนรับช่วงไฮซีซั่นและไม่มีเทศกาลถือศีลอด
BDMS แจ้งว่าบริษัทได้บรรลุข้อตกลงที่จะซื้อที่ดินบริเวณโครงการปาร์คนายเลิศ ซึ่งรวมถึงอาคารและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าว บริษัทตั้งใจที่จะพัฒนาที่ดินและอาคารเหล่านี้ให้เป็นศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร "BDMS Wellness Clinic" สอดคล้องกับกระแสความตื่นตัวเรื่องสุขภาพที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มูลค่าการซื้อขายและงบประมาณการลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ 1.28 หมื่นล้านบาท โดย 1.08 หมื่นล้านบาทเป็นมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนอีก 2 พันล้านบาท เป็นงบประมาณการลงทุน ถึงแม้ว่าการลงทุนขนาดใหญ่นี้จะกดดันกำไรในช่วง 2-3 ปีแรกก็ตาม แต่ บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินว่าธุรกิจศูนย์สุขภาพครบวงจรนี้จะช่วยเพิ่มกำไรให้กับบริษัทในระยะยาวเนื่องจากให้อัตรากำไรที่สูงเมื่อเทียบกับบริการประเภทอื่นๆ
นอกจากนี้ BDMS จะยังคงแผนขยายเครือข่ายโรงพยาบาลให้เป็น 50 โรงพยาบาล รวมถึงพัฒนาโรงพยาบาลแม่ข่ายทั้ง 9 แห่งให้เป็น Centers of Excellence ซึ่งการขยายเครือข่ายและพัฒนาดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความสามารถของบริษัทในการเข้าถึงคนไข้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มากขึ้นอีกด้วย
ดังนั้น บล.เอเชีย เวลท์ จะยังคงประมาณการกำไรปกติปี 59 ไว้ที่ 8.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% YoY แต่ปรับลดกำไรปกติปี 60 ลงมาอยู่ที่ 9.5 พันล้านบาทเพื่อสะท้อนการลงทุนข้างต้น ซึ่งการปรับลดนี้ทำให้กำไรปี 60 เติบโตอย่างชะลอตัวที่ 6.5% ก่อนที่จะกลับมาเติบโต 15.0% อีกครั้งในปี 61