ส.อ.ท. เร่งเครื่องเต็มสูบ พัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ - 3 ปี ขยายผล Eco Factory 70 แห่ง พร้อมผนึกกำลัง ก.อุตสาหกรรม MOU การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว Green industry

พุธ ๐๕ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๓:๕๓
สถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2559 "Eco Innovation and Solution 2016" พร้อมพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมืออุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 4 และ มาตรฐานการรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ระหว่าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ กระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ณ ห้อง Grand Hall 201-202 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีนโยบายและแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้เกิดความยั่งยืน

ซึ่งนอกจากการส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตควบคู่กับการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้อยู่ร่วมกับสังคมอย่างผาสุกแล้ว กระทรวงอุตสาหรรมได้มีการกำหนดแผนแม่บทการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรม พ.ศ. 2559 - 2564 ขึ้น เพื่อต่อยอดการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องไปสู่ Industry 4.0 โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ ยกระดับผลิตภาพภาคอุตสาหกรรมไทย โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และระบบบริหารจัดการสมัยใหม่ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่สำคัญของยุทธศาสตร์นี้คือ การพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยผลักดันให้มีการนำแนวคิดเรื่อง Green Productivity

มาออกแบบในกระบวนการผลิต และการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการ นำแนวคิดเรื่องการสร้างคุณค่าระหว่างธุรกิจและสังคมควบคู่ไปพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า Creating Share Value หรือ CSV ซึ่งจะเกิดคุณค่าต่อสังคมมากกว่า CSR โดยกลยุทธ์นี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักถึงกระบวนการเพิ่มศักยภาพให้เกิดความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่คุณค่า โดยการปรับปรุงและยกระดับผลิตภาพของกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การจัดการโซ่อุปทานสีเขียว การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุนวัตถุดิบ และประหยัดพลังงาน รวมทั้งเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้ ผ่านการนำวัสดุเหลือใช้ หรือของเสียไปใช้ประโยชน์ รวมถึงการสร้างคุณค่าระหว่างธุรกิจและสังคมที่ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการพัฒนา และแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญหลักขององค์กรมาสร้างให้เกิดคุณค่าเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่นอกเหนือจากการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม

สถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถือเป็นหน่วยงานภาคเอกชนซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานพันธมิตรของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีภาระกิจและบทบาท

ที่สำคัญในการส่งเสริมยุทธศาสตร์ของกระทรวงอุตสาหกรรมให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสถาบันฯ มีการริเริ่มมาตรฐานรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ ที่รู้จักกันดีในชื่อว่า Eco Factory ซึ่งเป็นมาตรฐานเพื่อยกระดับและมุ่งส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเกณฑ์ในการพัฒนาโรงงานให้ได้รับการรับรอง Eco Factory นั้น จะต้องมีการดำเนินงานให้ครอบคลุมทั้ง 5 มิติ ได้แก่ กายภาพ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการ ซึ่งโรงงานนั้นจะต้องมีการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรและการปล่อยมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อมด้วย รวมทั้งต้องมีกิจกรรมร่วมกับสังคม โดยการส่งเสริมให้โรงงานมีกิจกรรมพัฒนาอาชีพให้กับชุมชนเพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชน และเกิดการอยู่ร่วมกันกับชุมชนโดยรอบ ซึ่งแนวทางการพัฒนามาตรฐาน Eco Factory นี้เอง ได้ตอบโจทย์การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ของภาครัฐ ที่ได้มีนโยบายขยายการดำเนินงานการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ให้เกิดขึ้นภายในปี 2561 จำนวน 15 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ราชบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และสงขลา ซึ่งสถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม ก็ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศร่วมกับ

กรมโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังได้มีส่วนร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการพัฒนาตัวชี้วัดการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับ Eco-Excellence และ Eco-World Class ด้วย

"การจัดงานสัมมนาวิชาการ ประจำปี 2559 "Eco Innovation and Solution 2016" ถือเป็นเวทีสำคัญ ที่สถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี โดยเรื่อง Eco Innovation and Solution ยังคงเป็นประเด็นสัมมนาที่สำคัญ และทันต่อยุคสมัย เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องส่งเสริมและผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเชิงธุรกิจด้วยการพัฒนาผลิตภาพและนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมไปสู่ Industry 4.0 พร้อมคำนึงถึงความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดอุตสาหรรมสีเขียว (Green Industry) และการเพิ่มคุณค่าให้กับสังคม (Creating Share Value) ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทย

ที่เราควรมุ่งเน้นเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถยกระดับไปสู่การพัฒนาอีกขั้น" ดร.อรรชกา กล่าว

นายบวร วงศ์สินอุดม รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นพันธมิตรในการทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐทั้งระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่น รวมถึงทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรม และเครือข่ายภาคประชาสังคมต่างๆ ในการดำเนินงานส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ที่มุ่งเน้นการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการอยู่ร่วมกับสังคม โดยมีการส่งเสริมให้โรงงานมีธรรมาภิบาลที่ดีด้านสิ่งแวดล้อม มีการส่งเสริมอาชีพแก่ผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การส่งเสริมให้สร้างวิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการศึกษา เป็นต้น และจากเหตุผลข้างต้น งานสัมมนาวิชาการประจำปีที่จัดขึ้นในครั้งนี้ จึงยังคงเน้นความต่อเนื่องเรื่องการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยมีจุดมุ่งหมายสูงสุดเพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและสังคม รวมถึงส่งเสริมเทคโนโลยีการจัดการสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาดให้มีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

"การจัดงานสัมมนาวิชาการ ประจำปี 2559 Eco Innovation and Solution 2016 ที่จัดขึ้นตลอด2 วัน คือ ระหว่างวันที่ 3 - 4 ตุลาคม 2559 นี้ ประกอบด้วยกิจกรรมที่ส่งเสริมเรื่องอุตสาหกรรมเป็นมิตร ในหลากหลายมิติ อาทิ การสัมมนา Eco Factory โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืน, สัมมนาบุคลากรสิ่งแวดล้อมกลไกสำคัญสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยั่งยืน เสวนาพิเศษ Industry 4.0 พัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืนและสังคมมีสุข, พิธีมอบโล่รับรองรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศแก่โรงงานอุตสาหกรรมที่ได้นำหลักเกณฑ์โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ Eco Factory ซึ่งดำเนินการโรงงานต้นแบบในปี 2557 จำนวน 2 บริษัท และได้ขยายผลมาในปี 2558 จำนวน 37 บริษัท และในปี 2559 นี้ มีโรงงานขอรับรองจำนวน 31 บริษัท รวมทั้งสิ้น 70 บริษัท (ปี 2557 – 2559) รวมถึงยังจัดให้มีพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการบูรณาการ การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว Green industry (GI) ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม กับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยกระทรวงอุตสาหกรรม จะเป็นผู้ให้การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว Green industry (GI) ระดับที่ 4 วัฒนธรรม สีเขียว (Green Culture) ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น" นายบวร กล่าว

ทั้งนี้ นอกจากกิจกรรมสัมมนาทางวิชาการที่ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิและวิทยาการทั้งจากภาครัฐและเอกชนมาร่วเป็นวิทยากรแล้ว ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเทคโนโลยี และบริการในการจัดการสิ่งแวดล้อม รวมถึงกิจกรรมเครือข่ายพันธมิตรจากภาคเอกชน ประชาคม และสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมวาดภาพศิลปะ การนวดแผนไทยจากนักเรียน และนิทรรศการแสดงกิจกรรมส่งเสริมอาชีพให้แก่ชุมชนโดยสมาคมเพื่อนชุมชน ซึ่งคาดงานจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม นักวิชาการ ภาคประชาชน และสื่อมวลชน ไม่ต่ำกว่า 1,000 คน...

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version