ไทยร่วมเวทีมั่นคงอาหารอาเปค ชู การพัฒนาความร่วมมือประชารัฐ ให้ความสำคัญเกษตรกรรายย่อย

พฤหัส ๐๖ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๒:๔๑
ไทยประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ 4 ภายใต้กรอบเอเปค ณ เมืองเพียวร่า สาธารณรัฐเปรู รุกร่วมมือด้านความมั่นคงอาหารระหว่างกันภายในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก พร้อมรับรองปฏิญญาเพียวร่า ด้านไทย ชูแนวทางพัฒนาที่มีความร่วมมือโดยประชารัฐ เน้นพัฒนาเกษตรกรรายย่อย และการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

นางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดภายเผยหลังเข้าร่วมประชุมในสัปดาห์ความมั่นคงอาหารและการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ 4 ภายใต้กรอบเอเปค ในหัวข้อการส่งเสริมตลาดอาหารของภูมิภาค (Enhancing the Regional Food Market) ระหว่างวันที่ 20–27 กันยายน 2559 ณ เมืองเพียวร่า สาธารณรัฐเปรู โดยมีรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

การประชุมระดับรัฐมนตรีของสมาชิกเอเปค มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงอาหารระหว่างกันภายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยจะมีการรับรองปฏิญญาเพียวร่า ว่าด้วยความมั่นคงอาหารเอเปค ซึ่งสาระสำคัญของปฏิญญาฯ ประกอบด้วย 7 หัวข้อหลัก คือ 1) ความท้าทายและโอกาสสำหรับความมั่นคงอาหารในภูมิภาค 2) ตลาดอาหารในภูมิภาคและการค้า 3) ความยั่งยืนสำหรับระบบอาหารที่มีความยืดหยุ่นปรับตัวได้ 4) นวัตกรรมและเทคโนโลยี 5) การพัฒนาชนบทและเขตเมือง 6) โครงสร้างพื้นฐานการลงทุนและการบริการเพื่อความมั่นคงอาหาร และ 7) การเข้าสู่ระบบอาหารในปี ค.ศ.2020

สำหรับร่างปฏิญญาฯ ดังกล่าว เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการดำเนินงานเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคงอาหารระหว่างสมาชิกเอเปค โดยไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย (non-legal binding) ซึ่งสมาชิกสามารถพิจารณาให้ความร่วมมือตามความสมัครใจ

ในโอกาสเดียวกันนี้ ไทยได้กล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ การพัฒนาชนบทและเขตเมือง (Rural-Urban Development) เพื่อแสดงแนวทางของประเทศไทยว่า การเพิ่มขึ้นของพื้นที่ในชุมชนเมือง มีผลต่อความมั่นคงทางอาหาร จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้การพัฒนาที่มีความร่วมมือ และครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย ซึ่งไทยได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการวางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นแนวทางที่มีความยั่งยืน คำนึงถึงชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นการจัดการความเสี่ยงให้กับเกษตรกร

นอกจากนี้ ประเทศไทยได้ดำเนินโครงการร่วมกับภาคเอกชน และชุมชน ผ่านโครงการประชารัฐในการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อยกระดับการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรของไทยในระยะยาว ทั้งนี้ การรับประกันความมั่นคงอาหารในระยะยาว จะต้องทำให้เกิดความยั่งยืนทั้งด้านการผลิตและการบริโภค โดยใช้กลไกการค้าแบบเปิด ยุติธรรม และอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี การแลกเปลี่ยนความรู้ และความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน ตลอดจนการมีส่วนร่วมของเกษตรกรรายย่อยเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาชนบทและเขตเมืองของเอเปคต่อไป รองเลขาธิการ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๔๒ โฮมโปรฯ ร่วมกับ UMI ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม นำกระเบื้องชำรุดมาผลิตใหม่
๑๕:๒๐ อินดิจี (IDG) นำเสนอข้อมูล ก.ล.ต. และ ตลท. เดินหน้า IPO 28 ล้านหุ้นใน mai ตอกย้ำที่ปรึกษา Digital Transformation
๑๕:๓๖ XO เดินหน้าซอสส่งออกปี 68 เจาะทวีปยุโรป โฟกัสตลาดมาร์จิ้นสูง ด้านไลน์การผลิตใหม่คาดเดินเครื่องเม.ย.นี้
๑๕:๕๘ ตามติดโร้ดแมป 'LINE ประเทศไทย' ในงาน #LCT25 สานต่อ Open Platform ขยายโอกาสนักพัฒนาไทย พาธุรกิจโต
๑๕:๐๘ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยกระดับทักษะพนักงานนวดและสปา มุ่งตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ
๑๖:๐๐ แพรวพามู ครั้งที่ 3 ตอน มูสละโสด กับ อาจารย์ไวท์ หมอดูโอปป้า
๑๕:๔๑ กทม. เข้มเฝ้าระวังสารเคมีรั่วไหล กำชับมาตรการความปลอดภัย หลังไฟไหม้คลังสินค้าแช่เย็นบางพลี
๑๕:๑๓ แสนสิริ บุกตลาดรับสร้างบ้าน เปิดตัว ต้นแบบ Crafted by Sansiri เล็งเห็นโอกาสการเติบโตจากมูลค่าตลาดกว่า 2
๑๕:๑๑ Bitkub Chain ปรับภาพลักษณ์สู่การเป็นบล็อกเชนสาธารณะระดับโลกพร้อมประกาศเปลี่ยนผ่านสู่ KUB
๑๕:๐๘ มดดำ-หนิง ปณิตา นำทีมเยี่ยมชมโรงงานผลิต Dr.master เสริมความมั่นใจผู้บริโภค การันตีคุณภาพระดับสากลจาก รีโว่เมด