กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--ธสน.
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิด “โครงการเพิ่มมูลค่าส่งออกกับประเทศ FTA” ให้สิทธิประโยชน์ทั้งด้านการเงินและข้อมูลตลอดปี 2548 แก่ผู้ส่งออกที่ส่งสินค้าและบริการไปยังผู้ซื้อรายใหม่ในกลุ่มประเทศที่ไทยลงนามจัดตั้งเขตการค้าเสรี (Free Trade Area: FTA) ขานรับนโยบายรัฐบาลในการเปิดตลาดการค้ากับประเทศคู่ค้าใน FTA
นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการ ธสน. เปิดเผยว่าตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการเจรจาเพื่อจัดตั้ง FTA กับประเทศคู่ค้าต่างๆ และได้ลงนามแล้วเสร็จ 3 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย และออสเตรเลีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสในการส่งออกนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งเสริมสร้างให้ผู้ส่งออกมีความมั่นใจในการส่งสินค้าและบริการไปยังประเทศเหล่านี้ ธสน. จึงได้เปิด “โครงการเพิ่มมูลค่าส่งออกกับประเทศ FTA” มอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ส่งออกที่ส่งสินค้าไปยังผู้ซื้อรายใหม่ในกลุ่มประเทศ FTA โดยให้ส่วนลดพิเศษ 50% ค่าวิเคราะห์ข้อมูลผู้ซื้อในต่างประเทศเมื่อใช้บริการประเมินความเสี่ยงของผู้ซื้อในต่างประเทศหรือธนาคารผู้เปิด L/C เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ซื้อรายใหม่ๆ และเพิ่มความมั่นใจในการค้าขายกับผู้ซื้อรายนั้น และบริการข้อมูล FTA ฟรี! อาทิ สาระสำคัญของข้อตกลง ผลกระทบทางบวกและลบ นโยบาย/มาตรการสำคัญจากภาครัฐ ซึ่งการเข้าร่วม “โครงการเพิ่มมูลค่าส่งออกกับประเทศ FTA” นี้นอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้ขยายฐานการค้าแล้วยังส่งผลดีด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย
ผู้ส่งออกที่สนใจสมัครเข้าร่วม “โครงการเพิ่มมูลค่าส่งออกกับประเทศ FTA” สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายรับประกันการส่งออก ธสน. สำนักงานใหญ่ โทร. 0 2617 2111 ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2548
เกี่ยวกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งกำหนดขอบเขตอำนาจให้ธนาคารสามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่ธนาคารพาณิชย์ทำได้ ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางการเงินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ และสนับสนุนการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศของไทยหรือประหยัดเงินตราต่างประเทศ
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140-1146--จบ--
- ๒๓ พ.ย. EXIM BANK ร่วมประชุมประจำปีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าในเอเชีย ครั้งที่ 29 สานพลังองค์กรพันธมิตรส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
- ๒๔ พ.ย. EXIM BANK ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.25% ต่อปี คงเหลือ 6.35% ต่อปี ต่ำที่สุดในระบบ บรรเทาภาระผู้ประกอบการกลุ่มเปราะบางและ SMEs
- ๒๓ พ.ย. EXIM BANK พบปะทวิภาคีองค์กรรับประกันระดับโลก สนับสนุนผู้ประกอบการไทยบริหารความเสี่ยงขยายธุรกิจส่งออกและลงทุนระหว่างประเทศ