กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เมียนมาเปิดประเทศด้วยการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าเมียนมามากขึ้นนั้น การพัฒนาด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักที่รัฐบาลเมียนมาให้การสนับสนุน โดยเฉพาะการเร่งพัฒนาระบบไฟฟ้าและเครือข่ายสายส่งให้เพียงพอที่จะรองรับความต้องการใช้ภายในประเทศและการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดของเมียนมา โดยกระทรวงการไฟฟ้าของเมียนมาตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากปัจจุบันที่ 4,581 MW เป็น 54,608 MW ภายในปี 2573 จึงเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนไทยในการขยายการลงทุนหรือเข้าไปรับงานรับเหมาก่อสร้างโครงการต่างๆ ในเมียนมาเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทวินเทจ วิศวกรรม ได้เริ่มขยายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน โดยเข้าไปรับเหมาก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับบริษัท จีอีพี (เมียนมา) จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลในเมียนมาที่ได้รับสัมปทานรูปแบบการสร้างและโอนเป็นของรัฐในภายหลัง (Build Operate and Transfer : BOT) ระยะเวลา 30 ปี สอดคล้องกับนโยบายของ EXIM BANK ที่ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพในการรับเหมางานก่อสร้างโครงการระหว่างประเทศ รวมทั้งลงทุนในกลุ่มประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV)