กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้(7 ก.ค.48) เวลา 08.30 น. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม การปรับปรุงคุณภาพน้ำ และการเดินเรือในคลองแสนแสบ พร้อมลงเรือตรวจสภาพคลองที่ท่าเรือทองหล่อ ถึงท่าเรือประตูน้ำ
กวดขันไม่ทิ้งขยะลงคูคลอง
คลองแสนแสบเป็นคลองที่มีน้ำเน่าเสียไหลลงคลองเป็นจำนวนมาก ทำให้คุณภาพน้ำในคลองเกิดการเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากการปล่อยน้ำเสียจากครัวเรือนประชาชน สถานประกอบการ โดยตรงไม่ผ่านการบำบัดก่อน ซึ่งการแก้ไขในระยะเร่งด่วนนั้น กทม.จะเร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนไม่ทิ้งขยะและปล่อยน้ำเสียลงคูคลองโดยตรง โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่ติดคลองแสนแสบกวดขันการปล่อยน้ำเสีย และเพิ่มการเก็บขยะมูลฝอย ถ่ายเทน้ำจากแหล่งน้ำคุณภาพดีเข้ามาเจือจางในคลองแสนแสบ และดำเนินการขุดลอกคลองเพื่อนำตะกอนของเสียที่ทับถมอยู่ก้นคลองออกไปเพื่อให้น้ำในคลองแสนแสบดีขึ้น
เดินเครื่องบำบัดน้ำเสีย พัฒนาคุณภาพน้ำในคลองให้ดีขึ้น
ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในระยะยาวคือ การเดินเครื่องระบบบำบัดน้ำเสียดินแดง ซึ่งช่วยให้คุณภาพน้ำในคลองแสนแสบช่วงสะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงถนนราชปรารภดีขึ้น นอกจากนี้ กทม.ยังมีโครงการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียคลองเตย ที่สามารถบำบัด น้ำเสียได้ 360,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ครอบคลุมพื้นที่ 56 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจะช่วยให้เส้นทางบริเวณคลองแสนแสบช่วง รามคำแหง - คลองเตย มีคุณภาพน้ำที่ดีขึ้นและเข้าเกณฑ์มาตรฐาน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2549 และแล้วเสร็จ ในปี 2551 พร้อมติดตั้งเครื่องเติมอากาศในบึงและสระที่อยู่ริมคลองแสนแสบ อีกทั้งจะทำระบบท่อดักเก็บน้ำเสียตลอดสองฝั่งคลองแสนแสบ เพื่อนำไปบำบัดให้ได้มาตรฐานก่อนระบายลงสู่คลองแสนแสบ
ตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูคลองแสนแสบ จัดทำแผนบูรณาการ
นอกจากนี้ กทม. จะตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูคลองแสนแสบขึ้น โดยจะเชิญหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้อง อาทิ มหาวิทยาลัย ชุมชน สถานประกอบการ องค์กรต่างๆ และพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณริมคลองแสนแสบ ร่วมกันรณรงค์รักษาสภาพคลองแสนแสบให้ดีขึ้น โดยจะแบ่งเป็นคณะอนุกรรมการดูแลในแต่ละช่วงคลองแสนแสบ รวมทั้งศึกษา พัฒนา ปรับปรุงภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ ตลอดจนรณรงค์ไม่ทิ้งขยะมูลฝอย ทั้งนี้ ภายหลังจากตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูคลองแสนแสบแล้วเสร็จในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีประชุมคณะกรรมการครั้งแรก เพื่อการบูรณาการแผนงานร่วมกันระหว่างพื้นที่ที่เขตที่คลองแสนแสบผ่าน เช่น บางกะปิ วัฒนา ห้วยขวาง ปทุมวัน เป็นต้น
เพิ่มเส้นทางเรือส่วนต่อขยาย วัดศรีบุญเรือง - มีนบุรี แล้วเสร็จ ก.พ.49
ในปัจจุบันมีการเดินเรือในคลองแสนแสบจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ - วัดศรีบุญเรือง รวมระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร มีท่าเทียบเรือจำนวน 27 ท่า ดำเนินการโดยห้างหุ้นส่วนจำกัดครอบครัวขนส่ง ซึ่งสามารถแบ่งเบาการจราจรทางบกได้ในระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากปัจจุบันประชาชนได้หันมาใช้บริการทางเรือเป็นจำนวนมาก กทม.จึงมีนโยบายพัฒนาเส้นทางเดินเรือส่วนต่อขยายจาก วัดศรีบุญเรือง — มีนบุรี รวมระยะทางอีก 11.5 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรทางเรือเพิ่มขึ้น โดยจะก่อสร้างท่าเทียบเรือจำนวน 14 ท่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกวดราคา คาดว่าจะก่อสร้างท่าเทียบเรือแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ในระหว่างนี้ก็จะประกาศหาผู้ประกอบการเดินเรือไปพร้อมกัน โดยเมื่อก่อสร้างท่าเทียบเรือแล้วเสร็จจะสามารถเดินเรือโดยสารในส่วนต่อขยายได้ทันที
กวดขันเรือโดยสารขับขี่เร็วเกินกำหนด พร้อมตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ลดควันดำ
การเดินเรือในคลองแสนแสบมีผลกระทบต่อประชาชน กล่าวคือ ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนประชาชนที่พักอาศัยบริเวณริมคลอง เกิดควันดำที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งการเดินเรือด้วยความเร็วเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด คือ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำให้เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่กระแทกตลิ่งและเขื่อน ค.ส.ล.ทำให้เกิดความชำรุดเสียหาย เช่น แผงเขื่อนบริเวณชุมชนสุเหร่าบ้านดอน เขตวัฒนาเกิดความเสียหาย จำนวน 150 ช่อง ระหว่างซอยทองหล่อ 39 - ทองหล่อ 55 ความยาวกว่า 1 กิโลเมตร กทม.จึงได้ประสานขอความร่วมมือกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี กวดขัน ควบคุม ดูแล มิให้เดินเรือโดยสารเกินกว่าอัตราความเร็วที่กำหนด และให้มีการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ให้ลดควันดำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อีกทั้งมาตรการด้านความปลอดภัย และด้านความสะอาดด้วย ส่วนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเขื่อนชำรุดได้จัดสรรงบประมาณดำเนินการซ่อมแซมประมาณ 1,900,000 บาท โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 90 วัน กำหนดแล้วเสร็จเดือนธันวาคม 2548
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--