ผู้เชี่ยวชาญแนะรัฐฯ ให้อิสระเอกชนตั้งราคาขายปลีกฐานภาษีสรรพสามิตใหม่ เรียบง่ายและเป็นสากล

อังคาร ๑๘ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๒๓
นางมัลลิกา ภูมิวาร ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีศุลกากรและการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ บริษัท โบลลิเกอร์ แอนด์ คอมพานี คอนซัลติ้ง จำกัด เปิดเผยถึง กรณีที่ร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตที่เพิ่งเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ที่ต้องการผลักดันโครงสร้างการเปลี่ยนฐานการคิดภาษีจากราคาหน้าโรงงานหรือราคานำเข้ามาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ ซึ่งจะใช้บังคับกับสินค้าที่เสียภาษีสรรพสามิต 20 ประเภท เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ น้ำอัดลม เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์เครื่องหอม เครื่องสำอาง น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน แบตเตอรี่ เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ โดยนางมัลลิกา กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนฐานคิดภาษีสรรพสามิตมาเป็นราคาขายปลีกนับเป็นการปรับเปลี่ยนที่ดีและถือเป็นหัวใจของการปฏิรูประบบภาษีสรรพสามิตที่จะเพิ่มความโปร่งใสและช่วยลดข้อพิพาทเรื่องสำแดงราคาต่ำที่เป็นปัญหาระหว่างรัฐและเอกชนมาโดยตลอด เนื่องจากราคาขายปลีกเป็นราคาที่เปิดเผยและรับรู้กันในสาธารณะ กระนั้นตามที่มีรายงานข่าวว่าร่างกฎหมายที่กำลังอยู่ในชั้นพิจารณาของสนช. กลับได้มีการกำหนดวิธีการคำนวณราคาขายปลีกให้ผู้ประกอบการต้องคำนวณ จากต้นทุน ค่าบริหารจัดการ และกำไรมาตรฐาน อีกทั้งยังเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจในการปฏิเสธราคาขายปลีกและให้อำนาจในการกำหนดราคาขายปลีกของผู้ประกอบการเอง หากไม่เชื่อว่าราคาที่แจ้งเป็นราคาที่สอดคล้องกับกลไกตลาด

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีและการค้าระหว่างประเทศให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่า "การเพิ่มข้อกำหนดในการคำนวณราคาขายปลีกของผู้ประกอบการหรือการให้อำนาจอธิบดีมากำหนดราคาใหม่ได้เองเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลใจให้กับภาคเอกชน เนื่องจากมองดูแล้วก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากระบบเดิมๆ ที่เคยทำมา สุดท้ายวัฏจักรเดิมคือการถกเถียงกันเรื่องการรับราคาก็จะกลับมา เกิดการแทรกแซงกลไกราคาและกลไกตลาดได้ ซึ่งหากรัฐเข้ามากำหนดเอง โดยใช้เรื่องการจัดเก็บรายได้เข้ามาเป็นตัวตั้งและตั้งฐานภาษีให้สูงเกินกว่าจำเป็น ผู้ประกอบการ ย่อมหาทางผลักภาระไปยังผู้บริโภค สุดท้ายประชาชนก็เป็นผู้รับภาระภาษีและสินค้าและบริการที่จะมีราคาสูงขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งยังกระทบกับภาคธุรกิจในการบริหารโมเดลธุรกิจของตัวเองและการตั้งราคาสินค้าในกลุ่ม ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีสินค้าหลากหลายเซกเม้นท์และมีการทำราคาให้อยู่ในจุดที่แข่งขันได้"

นางมัลลิกากล่าวสรุปท้ายว่า วิธีการกำหนดราคาขายปลีกควรจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย และ ตรงไปตรงมา ลดการใช้ดุลพินิจ ในขณะที่ร่างกฎหมายที่เข้า สนช. ดังกล่าวนี้ ดูสวนทางกับเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ที่ต้องการบูรณาการให้กฎหมายภาษีสรรพสามิตมีความโปร่งใส เรียบง่าย เป็นสากล ลดข้อถกเถียงกับภาคเอกชนในเรื่องราคาต้นทุนที่แจ้ง ภาคธุรกิจจึงอยากขอให้ สนช. มีการพิจารณาแก้ไขนำเงื่อนไขเรื่องการกำหนดราคาขายปลีกแนะนำออก โดยให้ใช้หลักการตรวจสอบย้อนหลัง (post audit) ในกรณีหากมีข้อสงสัยอันเป็นหลักปฏิบัติที่ยอมรับกันได้แทน แต่หากพระราชบัญญัตินี้ถูกประกาศใช้เป็นกฎหมายโดยขาดความเป็นธรรมและไม่ได้ถูกพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว ผู้ประกอบธุรกิจสินค้าที่เสียภาษีสรรพสามิตจำนวนมากไม่น้อยกว่า 20 ประเภท จะต้องได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวอย่างแน่นอน และอาจนำไปสู่ผลกระกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจระดับประเทศอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๐๐ รำไพพรรณีจับมือโรงเรียนในจันทบุรี พัฒนาทักษะภาษา สู่ความเป็นเลิศ
๐๙:๐๐ DITP แถลงข่าวตอกย้ำความสำเร็จ E-Academy ภายใต้แนวคิด Beyond Boundaries Transform Knowledge into Impact
๐๙:๐๐ เปิดให้จองแล้ว Samsung Galaxy S25 Series ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ของคนไทย พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
๐๙:๐๐ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ เชิญร่วมงานเสวนา โปรตุเกส.เหตุที่รั
๐๙:๐๐ การเคหะแห่งชาติจับมือ 3 หน่วยงาน พัฒนาศักยภาพเพิ่มทักษะชาวชุมชนหวังสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
๐๙:๐๐ ก้อย-นัตตี้-ดรีม ชีเสิร์ฟความฮอตแบบไม่พัก รับบทพรีเซ็นเตอร์ชุดชั้นในวาโก้ โชว์ความเนียนยืนหนึ่งระดับตัวมัม!
๐๙:๐๐ เจาะลึกคีย์เทคโนโลยี AI ฝีมือคนไทย บนแอปสินเชื่อ มันนี่ทันเดอร์ พลังขับเคลื่อนสำคัญที่ อบาคัส ดิจิทัล
๐๘:๑๓ เปิดความปัง มั่งมีรับปีใหม่ กับ แมคโดนัลด์ 'มั่งมีเบอร์เกอร์ x MY MELODY' ยกขบวนความน่ารัก MY MELODY กับแพ็กเกจจิงและ กระเป๋า Tote Bag
๐๘:๑๑ ถอดรหัสความสำเร็จ Fundao แบรนด์กระเป๋าไทยของผู้หญิงยุคใหม่ กับสถิติยอดขายช่วงแคมเปญเพิ่มขึ้นกว่าปกติถึง
๐๘:๐๐ เปลี่ยนธุรกิจคุณให้โตคูณร้อย กับหลักสูตร CMF เปิดรับสมัครรุ่นที่ 21 แล้ววันนี้ !!