ในวันนี้ (อังคารที่ 31 พฤษภาคม 2559) ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย (www.thaiappraisal.org) ได้จัดการเสวนาวิชาการรายเดือนครั้งที่ 166: ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตอบโจทย์สังคมผู้สูงวัย ดร.โสภณ จึงนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นเพื่อนำเสนอถึงโอกาสการลงทุนสำหรับอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้
ประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรสูงวัย (อายุตั้งแต่ 65 ปี) มากที่สุดในอาเซียน โดยมีสัดส่วนสูงถึง 10% สูงกว่าสิงคโปร์ที่มีสัดส่วนเพียง 9% เท่านั้น และสูงกว่าอันดับที่ 3 คืออินโดนีเซีย ที่มีสัดส่วนผู้สูงวัยเพียง 7% เวียดนามกับมาเลเซียมีสัดส่วนเท่ากันคือ 5%-6% ส่วนกัมพูชา บรูไน ฟิลิปปินส์ และลาวมีสัดส่วนผู้สูงวัยเพียง 4% แต่ที่น่าห่วงคือ ประชากรในกัมพูชา ฟิลิปปินส์และลาวที่มีอายุไม่เกิน 14 ปีนั้นมีสูงถึงหนึ่งในสาม ประชากรส่วนนี้เป็น "ภาระ" ในการเลี้ยงดูสำคัญในปัจจุบัน แต่ในอนาคตอีก 10-15 ปีข้างหน้า ก็คงกลายเป็นพลังการผลิตที่สำคัญของประเทศเหล่านี้
อาจกล่าวได้ว่า ประเทศที่มีสัดส่วนผู้สูงวัยน้อยนั้น ส่วนมากเป็นประเทศที่ยากจน มีภัยสงครามมาก่อน ทำให้จำนวนประชากรสูงวัยมีจำนวนจำกัด ในทางตรงกันข้าม ประเทศที่มีสัดส่วนผู้สูงวัยมาก มักเป็นประเทศที่มั่งคั่ง เช่นในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป มีสัดส่วนประชากรสูงวัยสูงถึง 15%-19% แต่หากมีมากเกินไปเช่นญี่ปุ่น ที่มีถึง 27% หรือราวหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งประเทศ ก็จะกลายเป็น "ภาระ" เพราะผู้สูงวัยส่วนมากไม่ได้ประกอบอาชีพแล้ว
แม้ในปัจจุบันไทยจะเป็นอันดับหนึ่งของการมีประชากรสูงวัยมากที่สุด แต่หากดูจากกลุ่มอายุ ก็เชื่อว่าในอนาคตไม่เกิน 10 ปีข้างหน้าสัดส่วนประชากรสูงวัยของสิงคโปร์น่าจะแซงหน้าประเทศไทย สิงคโปร์ก็จะมีสภาพคล้ายคลึงกับฮ่องกงที่มีสัดส่วนประชากรสูงวัยเป็นอันมาก ประสบการณ์ของการพัฒนาที่อยู่อาศัยของสังคมสูงวัยในไทย จึงควรศึกษาแบบอย่างจากฮ่องกง สิงคโปร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งญี่ปุ่น
ในฮ่องกงมีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย โดยแบบปกติเป็นห้องชุดในชั้นล่างสุด (เพื่อความสะดวกในการเดินทาง) หรือห้องชั้นบนเหนือห้องชุดที่ชั้นล่างสุดเป็นห้องประกอบการพาณิชย์ หรือเป็นห้องชั้นล่างในบ้านพักอาศัย ส่วนแบบที่ออกแบบสำหรับผู้สูงวัยโดยตรงซึ่งจะเป็นโครงการที่อยู่รวมกันโดยผู้สูงวัย และในอาคารจะมีระบบเตือนภัยฉุกเฉิน ระบบฉีดน้ำดับเพลิง ระบบควัน พื้นที่ไม่ลื่น ซักล้าง ทางเดินที่มีมือจับ ห้องน้ำผู้สูงวัย-ผู้พิการ ฯลฯ
ส่วนในสิงคโปร์ การเคหะแห่งชาติของสิงคโปร์ก็มีการจัดหาที่อยู่อาศัยสำหรับบุคคลกลุ่มนี้เช่นก้น ทั้งนี้จะมีทั้งแบบแยกและแบบที่ออกแบบสำหรับคนในครอบครัวเดียวกัน และมีมาตรฐานที่แน่ชัด เพราะในอนาคตจำนวนประชากรสูงวัยก็จะมีมากขึ้น สำหรับการผ่อนชำระ ก็สามารถผ่อนชำระได้ตามวัยที่แตกต่างกัน เช่น อายุ 60 ปี หรือ 70 ปี ในระยะเวลาการผ่อนหรือเช่าที่แตกต่างกันเช่น 10 หรือ 20 ปี เป็นต้น
อสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงวัยจึงเป็นสิ่งที่พึงศึกษาเพื่อเตรียมการพัฒนาให้มากขึ้น รวมทั้งรองรับผู้สูงวัยจากญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี และอื่น ๆ ที่จะเดินทางมาพำนักในประเทศไทย ซึ่งจะค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่านั่นเอง
อ้างอิง: AREA แถลง ฉบับที่ 193/2559: วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2559
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย ([email protected]) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน