ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. สหกล อิควิปเมนท์ (SQ) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดบริการรับเหมาก่อสร้าง ในวันที่ 26 ตุลาคม 2559 นี้ โดย SQ ดำเนินธุรกิจให้บริการและดำเนินงาน ด้านการทำเหมืองอย่างครบวงจร โดยครอบคลุมถึงการวางแผน การให้คำปรึกษา การปฏิบัติงานเปิดหน้าเหมือง การรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาและระบบสาธารณูปโภคภายในเหมือง และการให้เช่าและซ่อมบำรุงเครื่องจักรขนาดใหญ่
ปัจจุบัน SQ ดำเนินงานให้บริการแก่โครงการทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่ โครงการเหมืองแม่เมาะ โครงการ 7 และ โครงการ 8 และโครงการเหมืองหงสา ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งแต่ละโครงการมีอายุสัญญาไม่น้อยกว่า 10 ปี
SQ มีทุนชำระแล้ว 1,130 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 750 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 380 ล้านหุ้น โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อนักลงทุนสถาบัน ผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่าย และผู้มีอุปการคุณของ SQ ในราคาหุ้นละ 3.20 บาท เมื่อวันที่ 14, 17-18 ตุลาคม 2559 มีมูลค่าระดมทุนรวม 1,216 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,616 ล้านบาท โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการร่วมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สหกล อิควิปเมนท์ (SQ) เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับบริษัทฯ โดยมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ไปใช้ลงทุนในโครงการเหมืองแม่เมาะ โครงการ 8 จำนวนหนึ่ง และส่วนหนึ่งจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ"
หลัง IPO SQ มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มครอบครัวสิริสรรพ์ ถือหุ้น 28.63% กลุ่มครอบครัวอารีกุล ถือหุ้น 18.58% และ กลุ่มครอบครัวเทวกุล ถือหุ้น 6.20% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์(Book Building) โดยราคาเสนอขายเท่ากับหุ้นละ 3.20 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 21.74 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 กรกฎาคม 2558-30 มิถุนายน 2559) หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.15 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.sahakol.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
"ทศวรรษที่ 5 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อคนไทยเข้าถึงการลงทุนที่มั่งคั่งยั่งยืน"