แอลจีเผยผลประกอบการบริษัทประจำไตรมาส 3 ของปี 2559

จันทร์ ๓๑ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๓:๑๑
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและกลุ่มผลิตภัณฑ์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ชดเชยความท้าทายในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) เผยยอดขายประจำไตรมาสที่ 3 ของปี2559 อยู่ที่ 11.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 4.25 แสนล้านบาท) และรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 252.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 9.1 พันล้านบาท) โดยได้สะท้อนผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ รวมถึงผลกำไรที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งช่วยชดเชยยอดขายที่ลดลงและผลประกอบการที่ขาดทุนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ

รายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ ประจำไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 3เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี โดยมีผลประกอบการจากตลาดยุโรปและเอเชียที่แข็งแกร่งที่สุด รายได้จากการดำเนินงานมูลค่า 305.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 1.10 หมื่นล้านบาท)เป็นผลให้กลุ่มธุรกิจนี้มีอัตรากำไรจากการดำเนินงาน 8 เปอร์เซ็นต์ โดยเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ผลประกอบการที่ดีเยี่ยมของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมช่วยให้เกิดผลกำไรแม้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาวะค่าเงินผันผวนในประเทศแถบตะวันออกกลางและลาตินอเมริกา

กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ มีรายได้ประจำไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 8.28 หมื่นล้านบาท) คิดเป็น 23 เปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยยอดขายที่ลดลงของอุปกรณ์ดีไวซ์ระดับพรีเมี่ยมผนวกกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจส่งผลให้เกิดผลการดำเนินงานขาดทุนที่ 389.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 1.40 หมื่นล้านบาท) แอลจีได้ส่งออกสมาร์ทโฟนจำนวน 13.5 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 3 นี้ โดยทวีปอเมริกาเหนือได้รายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสที่ 2 สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะเน้นการเพิ่มยอดขายของสมาร์ทโฟน LG V20 ใหม่ และสมาร์ทโฟนกลุ่มผลิตภัณฑ์ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้อย่างK และ X Series รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจขั้นตอนสุดท้ายในแผนกโทรศัพท์มือถือให้มีการเตรียมพร้อมที่ดีขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายในอนาคต

กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานและอัตรากำไรที่สูงสุดในประวัติการณ์ด้วยยอด 340.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.23 หมื่นล้านบาท) และอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ 9.2เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดขายของทีวีระดับพรีเมี่ยมอย่าง LG OLED TV และ Ultra HD TV ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดหลักๆ ทั่วโลก และเนื่องจากการแข่งขันที่เข้มข้นและแรงกดดันด้านราคาจึงทำให้ยอดขายลดลง 3.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว โดยมีรายได้ที่ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 1.33 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นยอดที่แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว นอกจากนี้ช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึง คาดว่าความต้องการของกลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวีจะเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าผลกำไรอาจได้รับผลกระทบจากราคาวัสดุที่เพิ่มสูงขึ้นและการเพิ่มขึ้นของการลงทุนทางการตลาด

กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์มียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ 602.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 2.17 หมื่นล้าน) โดยเพิ่มขึ้น 41 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปีและเพิ่มขึ้น6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทรายงานผลการดำเนินงานขาดทุนเล็กน้อยที่ 14.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 5.22 ร้อยล้านบาท) จากการลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้โครงการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นำโดยรถยนต์ GM Boltจึงคาดว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในไตรมาสที่ 3ของปี 2559

รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบด้านบัญชีประจำไตรมาสของแอลจี อีเลคทรอนิคส์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของIFRS (International Financial Reporting Standards) สำหรับช่วงสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐจะเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของสามเดือนในไตรมาสเดียวกัน โดยอัตราแลกเปลี่ยน ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 อยู่ที่ 36 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๖ เอ็ม บี เค เปิดโลกนวัตกรรมยานยนต์แห่งสายน้ำสุดล้ำสมัย มหกรรมเรือยิ่งใหญ่แห่งปีกับงาน Riverdale Marina Boat Fair # 3 วันที่ 5-9 มี.ค.
๑๖:๓๑ พาส่องเทรนด์การท่องเที่ยว 'Conscious travel' นักท่องเที่ยวไทยพักผ่อนในโรงแรมนานขึ้น พร้อมมองหาประสบการณ์สุดพิเศษ
๑๖:๒๘ อาการสั่น. สัญญาณเตือนโรคร้ายทางสมอง
๑๖:๓๙ เปิดมุมมองการประเมินคุณภาพภายนอกปี 2567 - 2571 ในรูปแบบ การประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
๑๖:๔๒ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมมือ ฟลิปส์ อินโนเวทีฟ พัฒนาแพลตฟอร์ม 'Flips IP' เปลี่ยนทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล
๑๖:๐๐ Jelly Bunny ส่งต่อความสดใสไปกับคอลเลกชั่น Lost in the Sunshine ต้อนรับฤดูกาลแฟชั่นสปริง - ซัมเมอร์ 2025
๑๖:๕๐ SAPPE โชว์ผลประกอบการปี 67 ทำ All Time High ยอดขายแตะ 6,775 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,252 ล้านบาท
๑๖:๓๑ SCN ออกหุ้นกู้ 2 ชุด กำหนดดอกเบี้ยคงที่ 7.00-7.25% เปิดขาย 26-27 ก.พ. นี้ ผ่านบล.ยูโอบี และบล.เคพีเอ็ม รับแผนเร่งเกมเดินหน้าขยายและต่อยอดธุรกิจปี
๑๖:๔๖ ลดยกเกาะรับซัมเมอร์ !! โฮมโปร-เมกาโฮม เสิร์ฟดีลคุ้ม 5 สาขาเกาะภูเก็ต ครบเรื่องบ้าน-งานช่าง แจกทั้งส่วนลด รับคืนสูงสุด 8,900 บาท เริ่ม 22 ก.พ. 68 นี้ 9
๑๖:๑๘ เมย์แบงก์ เกาะกระแส AI จัดสัมมนาการลงทุนพิเศษ AI on the Rise เจาะลึกตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับนักวิเคราะห์ดังระดับโลกจากวอลล์สตรีท