นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของบริษัทฯ ในรอบ 9เดือนแรกของปี 2559 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 พบว่า ยอดหนี้คงค้างในส่วนเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 522 ล้านบาทจากสิ้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้สุทธิของบริษัทฯ สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ร้อยละ 18 โดยเงินให้สินเชื่อเฉลี่ยต่อรายสำหรับปี 2559 สูงขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 4 หรือจาก 48,000 บาท เป็น 50,000 บาทต่อราย ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ สามารถควบคุมปริมาณลูกค้าค้างชำระได้ดีกว่าเป้าหมาย และดีกว่าปีที่ผ่านมาเท่ากับร้อยละ 1.80
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 3/2559 พบว่า จำนวนสัญญาใหม่ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 เท่ากับร้อยละ 1 แต่มูลค่าเงินให้สินเชื่อใหม่มีปริมาณที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ส่งผลให้รายได้ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มสูงขึ้นเท่ากับร้อยละ 11 สาเหตุที่ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ อยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์เนื่องจาก 1.การเพิ่มพื้นที่ให้บริการเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย โดยบริษัทฯ จะทำการสำรวจและทดลองตลาดก่อนทุกครั้ง ทำให้สามารถเข้าใจลูกค้า และร้านค้าในแต่ละพื้นที่ได้มากขึ้น 2.การยอมรับของร้านค้าในภาคต่าง ๆ ทำให้บริษัทฯ สามารถกำหนดผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี 3.ระบบการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพระหว่างแต่ละหน่วยงาน ทำให้ผลของการอนุมัติสินเชื่อมีประสิทธิภาพ สามารถอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ได้รวดเร็วหรือภายใน 30 นาทีต่อลูกค้า 1 ราย 4.การคัดกรองลูกค้าที่มีคุณภาพ ทำให้บริษัทฯ มีลูกค้าที่ดี และส่งผลต่อการลดลงของลูกค้าค้างชำระ
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีระบบการติดตามลูกค้าเพื่อแจ้งเตือนลูกค้าก่อนกำหนดการชำระเงินค่างวด เพื่อรักษาสถานะลูกค้าดี ทำให้ลูกค้าทราบกำหนดชำระเงินล่วงหน้า และสามารถเตรียมพร้อมการชำระเงินได้ก่อน ขณะที่นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทำให้ประชาชนมีรายได้ มีกำลังซื้อมากขึ้น และส่งผลต่อการเพิ่มของสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในภาคต่าง ๆ ผนวกกับนโยบายการคัดกรองลูกค้าที่มีคุณภาพและปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ เพื่อรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถควบคุมได้ที่ระดับร้อยละ 1 ซึ่งดีกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 0.2
"ยิ่งไปกว่านั้น เรายังได้ดำเนินนโยบายเข้าถึงและเข้าใจ โดยขยายพื้นที่ให้บริการในทุกภาคของประเทศไทยเพื่อให้เข้าถึงและเข้าใจลูกค้า โดยเน้นการเพิ่มจำนวนบุคลากรในพื้นที่ต่างๆ ที่มีความเข้าใจในความต้องการของพื้นที่ของตนเอง พร้อมจัดทำโปรแกรมส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรในทุกพื้นที่เพื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ อีกทั้งยังเน้นย้ำเรื่องความสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยการพัฒนาระบบการทำงานและเทคโนโลยีต่างๆ ที่เอื้อต่อการให้บริการสินเชื่อรายย่อย เช่น ชำระเงินค่างวดผ่าน smartphone โดยลูกค้าที่มี application การชำระเงินต่างๆ สามารถชำระเงินค่างวดของบริษัทฯ ได้เช่นกัน หรือ ระบบการจัดส่งใบสมัครจากพื้นที่ในภาคต่างๆ ทั่วประเทศมายังสำนักงานใหญ่ให้สามารถจัดส่งได้ภายใน 3-5 นาทีผ่านระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบการอนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว หรือ ปรับปรุงระบบ call center เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอสายหรือฟังเครื่องตอบรับโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว เป็นต้น" นายวิชิต กล่าว
"และเพื่อเพิ่มทางเลือกทางการเงินให้ลูกค้ารายย่อย บริษัทฯ ได้ริเริ่มโครงการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์กู้ส่วนเพิ่ม (Hire Purchase Top Up) เสนอให้เฉพาะลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระที่ดีกับบริษัทฯ อย่างน้อย 12 เดือน จากการศึกษาและทดลองตลาดพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าโดยปัจจุบันมีลูกค้าในโครงการประมาณ 3,500 ราย มียอดสินเชื่อใหม่เฉลี่ย 27,000 บาทต่อราย อีกโครงการคือโครงการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ เฉพาะลูกค้าเดิมที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อกับบริษัทฯ และต้องมีประวัติการผ่อนชำระดี จะได้รับเสนออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อพิเศษเริ่มตั้งแต่ 0.90% ถึง 1.75% ต่อเดือนขึ้นอยู่กับขนาดของรถจักรยานยนต์ โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระตั้งแต่ 12 ถึง 36 งวด โครงการนี้จะเริ่มในไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไปจนถึงไตรมาสที่ 1 ปีหน้า โดยลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อขอใช้สิทธิ์ได้ที่บริษัทฯ" นายวิชิต กล่าว
"นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เดินหน้าจัดทำโครงการเพื่อตอบแทนสังคมในหลายๆ ด้าน อาทิ ด้านการรักษาศิลปะการแสดงพื้นบ้าน โดยร่วมกับมูลนิธิเฉลิมราช บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สินที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดทำนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในหัวข้อ ในหลวงเสด็จเยือนเมืองนครฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้การแสดงพื้นบ้านสำหรับนักเรียน นักศึกษา ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่สนใจศึกษาศิลปะการแสดงพื้นบ้าน และในไตรมาสที่ 4 จะทำต่อในด้านการรักษาประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ โดยจัดกิจกรรมทอดกฐินสามัคคีเป็นปีที่ 2 ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อร่วมจัดสร้างศาลาอเนกประสงค์ ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมให้กับประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ที่วัดสวนทองรวมมิตร (ซับขอน) จังหวัดสระบุรี" นายวิชิต กล่าวทิ้งท้าย