นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่า "หลังจากที่ซิตี้ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว บริการการซื้อขายกองทุนรวมในต่างประเทศเป็นครั้งแรก เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ซิตี้ ได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพการลงทุนและใช้จุดแข็งจากการที่เป็นธนาคารที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการการลงทุนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสการลงทุน ธนาคารจึงขยายโอกาสการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะลูกค้าซิตี้ โกลด์ โดยลูกค้าซิตี้โกลด์ จะมีเงินฝากหรือการลงทุนอยู่กับซิตี้ 3 ล้านบาท ขึ้นไป สามารถลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศกับทางธนาคารได้โดยตรง โดยธนาคารจะคัดสรรการลงทุน และนำเสนอการลงทุนตราสารหนี้ที่น่าเชื่อถือจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมต่างประเทศที่เป็นที่รู้จักจากทั่วโลก"
"นักลงทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้จะได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เราคาดว่าการเติบโตต่ำ เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นน้อย และดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำต่อไป โดยนักวิเคราะห์ของซิตี้ชื่นชอบตราสารหนี้คุณภาพระดับน่าลงทุน (Investment Grade) ของสหรัฐฯ เช่นเดียวกับตราสารหนี้คุณภาพระดับต่ำกว่าระดับน่าลงทุน (High Yield) ของสหรัฐฯ และยุโรป อีกทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเป็นไปตามที่ซิตี้คาดการณ์ไว้ จึงน่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนในตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่ด้วยเช่นกัน นอกจากจะช่วยสร้างผลตอบแทนในรูปรายได้ที่สม่ำเสมอแล้ว การลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงในพอร์ทโฟลิโอนั้นสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ทฯ โดยรวมได้ดี และยังเป็นการลดผลกระทบเชิงลบจากภาวะการลงทุนที่ผันผวนอีกด้วย การลงทุนในตราสารหนี้จึงมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากตลาดสินทรัพย์ต่างๆ อาจจะมีความผันผวนมากขึ้นในภาวะที่การเมืองและเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน" กล่าว มร. พอล โฮเดส รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการลงทุนบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
การลงทุนในตราสารหนี้ นอกจากจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนแล้ว ยังเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคงที่ และสม่ำเสมอ ซึ่งหากว่าผู้ลงทุนถือครองตราสารหนี้ ตามระยะเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนสามารถคาดการณ์ผลตอบแทนล่วงหน้าได้ และสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าซิตี้ที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศกับทางธนาคาร ลูกค้าจะมีสภาพคล่องสูง เนื่องจาก ลูกค้าซิตี้ สามารถขายตราสารหนี้คืนให้กับทางธนาคารก่อนระยะเวลาครบกำหนดได้ นอกจากนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ เป็นการลงทุนที่ปลอดภัย และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนอื่นๆ เช่น การลงทุนในหุ้นที่ได้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท และการลงทุนในตราสารหนี้ยังมีอัตราเงินปันผลที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำในปัจจุบัน
"ซิตี้แบงก์มุ่งเน้นการให้บริการที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการแผนทางการเงิน และแผนการลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งการเปิดตัวบริการการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธนาคารที่มุ่งเน้นการให้บริการทางการเงินระดับโลก" นางวีระอนงค์กล่าวสรุป
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน การลงทุนไม่ใช่ภาระหนี้หรือภาระค้ำประกันของธนาคาร ไม่ใช่เป็นการฝากเงินกับธนาคารฯ การลงทุนมีความเสี่ยงรวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียเงินลงทุน ราคาของหน่วยลงทุนอาจขึ้นหรือลงได้ ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต หน่วยลงทุนไม่สามารถขายให้แก่บุคคลอเมริกัน
ซิตี้
ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citigroup.com | ทวิตเตอร์: @Citi | ยูทูป: www.youtube.com/citi | บล็อก: http://new.citi.com | เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/citi | ลิงก์อิน: www.linkedin.com/company/citi