นายสาทิส ตัตวธร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/59 มีรายได้รวม 329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68 ล้านบาท หรือ26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 261 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 22.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.18 ล้านบาท หรือ 348 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.94 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่เริ่มฟื้นตัว หลังจากที่ก่อนหน้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
"ผลงานในไตรมาส 3 ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ได้รับอานิสงส์จากธุรกิจธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่มีทิศทางที่ดีขึ้น กลุ่มสินค้าเครื่องใช้สำนักงาน ของใช้ในครัวเรือนยังมีการเติบโต และธุรกิจพิมพ์ฉลาก ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) (SLP) บริษัทย่อย ก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว อีกทั้งยังได้รับออเดอร์ใหม่จากลูกค้า ซึ่งมีการนำเสนอฉลากแบบใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรของ SLP ในปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา" นายสาทิสกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากผลการดำเนินงานของบริษัท เพชรสยาม (ประเทศไทย) จำกัด(PST) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SALEE โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าพลาสติกที่ใช้ในครัวเรือน และชุดสังฆทานรายใหญ่ ผ่านโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทได้เข้าไปร่วมลงทุนดำเนินธุรกิจดังกล่าว ซึ่ง PST จะเป็นบริษัทที่มีส่วนสำคัญในการเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้กับ SALEE ในอนาคต อย่างแน่นอน
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) กล่าวอีกว่า ผลประกอบการของบริษัทฯได้ผ่านจุดต่ำสุดในปีที่แล้ว โดยภาพรวมในปีนี้ทั้งปีรายได้และกำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจของกลุ่ม SALEE กลับมาฟื้นตัว ขณะที่ SLP ก็ได้รับงานพิมพ์ฉลากแบบใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงเข้ามาเพิ่มขึ้น และที่สำคัญบริษัทฯเริ่มรับรู้รายได้จาก PST ซึ่งถือเป็นบริษัทย่อยน้องใหม่ ที่อนาคตยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากการเพิ่มโปรดักท์ใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยแผนงานในอนาคตของ PST นอกเหลือจากการขยายฐานลูกค้าโมเดิร์นเทรดแล้ว ยังเตรียมรุกตลาดต่างประเทศทั้งในออสเตรเลีย และกลุ่มลูกค้าอาเซียนในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (CLMV) ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และเติบโตได้อีกมาก จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณ 5% โดยทั้งนี้ในปีหน้า บริษัทฯจะสามารถรับรู้รายได้ของ PST เข้ามาได้เต็มๆ ปี