นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย Primary Distribution ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย "ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT)" โดยกองทรัสต์ HREITจัดตั้งขึ้นเพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปคุณภาพสูงของนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อีสเทิร์นซีบอร์ด (จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง) ที่ถือเป็นจุดยุทธ์ศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์ของประเทศ อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน, อิเล็กทรอนิกส์ และ โลจิสติกส์ เป็นต้น มีความเชื่อมั่นว่า กองทรัสต์ HREIT จะได้การตอบรับที่ดีจากนักลงทุน จากจุดเด่นทั้งในด้านทรัพย์สิน และด้านทำเลที่ตั้งที่อยู่ในแหล่งนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอาทิ แผนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจชายฝั่งตะวันออก และแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อีกทั้ง ยังอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของเหมราช ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ ที่มีประสบการณ์ยาวนาน และมีชื่อเสียงเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าผู้ประกอบการอุตสาหกรรม
โดยการเสนอขายหน่วยทรัสต์ HREIT ทั้งหมดจำนวน 569,360,000 หน่วยนั้น จะให้สิทธิในการจองซื้อก่อนต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) ทั้งหมด 100 % ของหน่วยทรัสต์ HREIT ที่จะออกและเสนอขายครั้งแรก โดยจะเสนอขายและจัดสรรตามสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ของผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART แต่ละรายที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART ในวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ในอัตราส่วน 1.1622 หน่วยของหน่วยทรัสต์ WHART ต่อ 1 หน่วยของหน่วยทรัสต์ HREIT ที่ราคา 10.00 บาทต่อหน่วย โดยจะเปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์ HREIT สำหรับผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART ระหว่างวันที่ 9 -11 และ 14 พฤศจิกายน 2559 โดยสามารถจองซื้อได้ที่ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา เท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วย WHART ที่มีสิทธิจองซื้อสามารถจองซื้อหน่วยทรัสต์ในจำนวนที่น้อยกว่า หรือเท่ากับสิทธิ หรือเกินกว่าสิทธิที่ตนจะได้รับ แต่การจัดสรรส่วนที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทรัสต์
ในกรณีที่มีหน่วยทรัสต์เหลือจากการจัดสรรต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART ที่มีสิทธิจองซื้อ และ/หรือหน่วยทรัสต์ที่เหลือจากการคำนวณอัตราส่วนที่ถูกปัดเศษทศนิยมลงในการเสนอขายต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART จะนำมารวมกันและเสนอขายต่อ เหมราช และ/หรือ กลุ่มบุคคลเดียวกันของเหมราช ผู้มีอุปการคุณของกลุ่มบริษัทเจ้าของทรัพย์สิน นักลงทุนสถาบัน และผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ และตัวแทนจำหน่ายหน่วยทรัสต์ ที่ราคาเสนอขาย 10.00 บาทต่อหน่วย โดยมีระยะเวลาจองซื้อ ระหว่างวันที่ 15-18 พฤศจิกายน 2559 จองซื้อได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอเชีย เวลท์ จำกัด โดยการเสนอขายหน่วยทรัสต์ในครั้งนี้ มิได้เป็นการเสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อนักลงทุนรายย่อยหรือประชาชนทั่วไป ส่วนของนักลงทุนรายย่อยเสนอขายให้เฉพาะลูกค้าของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ และตัวแทนจำหน่ายหน่วยทรัสต์ตามที่กล่าวข้างต้น ซึ่งคาดว่ากองทรัสต์ HREIT จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559
"กองทรัสต์ HREIT มีประมาณการอัตราผลตอบแทนในปีแรกเท่ากับร้อยละ 7.75 (ซึ่งประกอบด้วยประมาณการอัตราผลตอบแทนสุทธิ (Net Yield) ร้อยละ 6.07 ประมาณการการแบ่งส่วนทุนจากรายการที่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินสดร้อยละ 0.01 และประมาณการเงินคืนทุนที่ถูกทยอยคืนแบบเส้นตรงร้อยละ 1.67) " นางสาววีณา กล่าว
ด้าน นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ HREIT กล่าวว่า กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปใน 6 โครงการที่กระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง คิดเป็นพื้นที่เช่ารวม 261,314 ตารางเมตร แบ่งเป็นอาคารโรงงาน 167,372 ตารางเมตร และอาคารคลังสินค้า 93,942 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1. อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง), 2. อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด, 3. อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี,4.อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 1, 5. อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 2 และ 6. อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 4
สำหรับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) นั้น มีความโดดเด่น และเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ดีสำหรับนักลงทุน จากผลตอบแทนการลงทุนที่สม่ำเสมอ จากสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารโรงงานและคลังสินค้าเป็นเวลา 30 ปี และโอกาสในการต่อสัญญาอายุการเช่าอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปี ซึ่งสามารถส่งต่อการลงทุนถึงลูกหลานได้
" อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป ที่กองทรัสต์ HREIT จะเข้าไปลงทุนนั้น ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ และโลจิสติกส์ เป็นต้น อีกทั้งทรัพย์สินที่กองทรัสต์เข้าลงทุนบางส่วน ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประกอบการเสรี (IEAT Free Zone) ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ในการลงทุนจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หรือ ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมซึ่งมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จึงทำให้ทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนในครั้งแรกนี้ มีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดผู้เช่าที่เป็นผู้ประกอบการชั้นนำทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี " นายเผ่าพิทยา กล่าว