นพ.ศรายุธ กล่าวต่ออีกว่า โรคเบาหวานเกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ในระยะยาวจะมีผลในการทำลายหลอดเลือด ถ้าหากเป็นโรคเบาหวานอย่างน้อย 5 ปี แล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจังและเหมาะสม อาจนำไปสู่สภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ซึ่งภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่สำคัญคือ ภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือดขนาดใหญ่ ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคของหลอดเลือดส่วนปลาย และภาวะแทรกซ้อนที่หลอดเลือดขนาดเล็ก ได้แก่ ภาวะแทรกซ้อนทางไต ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท ภาวะแทรกซ้อนทางตา อาจทำให้ตาบอดได้
ทั้งนี้โรคเบาหวานสามารถป้องกันได้ โดยการสร้างเสริมสุขภาพ อย่าให้น้ำหนักตัวมากเกิน ดำรงชีวิตด้วยหลัก "3 อ. 2 ส." ได้แก่ อ.แรก - อาหาร เลือกรับประทานอาหารไม่หวานจัด มันน้อย เค็มน้อย รับประทานปริมาณเหมาะสม มีผักและผลไม้พอเหมาะ อ.2 - ออกกำลังกาย ประมาณ 50-60 นาที อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ หรือให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์ อ.3 - อารมณ์ ไม่ตึงเครียด จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม ทำจิตให้สงบ มีสมาธิ ส.แรก - งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงจากสถานที่ที่มีควันบุหรี่ ส.2 – งดดื่มสุรา
โดยสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติได้กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นวันเบาหวานโลก หรือก World Diabetes Day) ประเด็นรณรงค์ปี 2559 นี้ คือ "Eyes on Diabetes" เน้นการคัดกรองเบาหวาน และการคัดกรองภาวะแทรกซ้อนของโรค โดยเฉพาะภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับจอตา เพื่อการรักษาที่รวดเร็วและลดโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขและสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทยได้กำหนดคำขวัญเพื่อการรณรงค์วันเบาหวานโรคปีนี้ไว้ว่า "เบาหวาน รู้จักเพื่อป้องกัน รู้ทันเพื่อควบคุม" หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลป้องกันตนเองจากโรคเบาหวาน สามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 /นพ.ศรายุธ กล่าวปิดท้าย
Cr. ภาพประกอบข่าว: อินเตอร์เน็ต