นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในงานวางระบบท่อ ธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมและก่อสร้างโรงงานในอุตสาหกรรมพลังงาน และปิโตรเคมี และธุรกิจพัฒนาโครงการและการลงทุน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2559 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 ว่าบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการให้บริการก่อสร้าง 1,170.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 299.28 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้รวมที่ 870.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 70.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.31 ล้านบาท หรือ 11.62% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 62.93 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2558 จำนวน 49.13 ล้านบาท หรือ 232.73% และมีอัตรากำไรสุทธิ 5.99%
สำหรับรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นมากมาจากการรับรู้รายได้เพิ่มเติมของโครงการท่อก๊าซธรรมชาติสระบุรี-นครราชสีมา ซึ่งดำเนินการโดย Sinopec-TRC Joint Venture และจากโครงการของบริษัท อาเซียนโปแตซชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) ("APOT") ที่บริษัทฯ ได้รับงานในตอนต้นปี คือ Preparation and Refurbishment of Existing Decline และงาน Early Works ของ Turnkey Delivery of APOT Project Package 2.Surface Processing and Facilities อีกทั้งจากงานของบริษัท สหการวิศวกร จำกัด (บริษัทย่อย) ที่เริ่มรับรู้รายได้ของโครงการจัดหา ติดตั้ง ทดสอบระบบเครื่องจักร และอุปกรณ์การผลิตบุหรี่ ด้านกระบวนการผลิตยาเส้นพอง (M-01/2) จากโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง
งวด 9 เดือน ปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,707.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.52 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้รวมที่ 2,572.24 ล้านบาท กำไรขั้นต้น งวด 9 เดือนเท่ากับ 473.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 28.83 ล้านบาท คิดเป็น 6.48% และมีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับ 17.50% ใกล้เคียงกับงวดอยู่ที่ระดับ 17.30% และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของ เท่ากับ 157.44 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา กำไรสุทธิ 5.78% กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.031 บาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 206.94 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 7.84% กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.043 บาท กำไรสุทธิงวด 9 เดือนลดลง 23.92%
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) กล่าวเพิ่มเติมว่า ณ สิ้นไตรมาส 3/2559 กลุ่มบริษัทฯ มีงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้างที่ยังไม่รับรู้รายได้ จำนวน 10 โครงการ มูลค่า 4,672.01 ล้านบาท โดย Backlog ดังกล่าวได้รวมงาน Early Works (มูลค่า 711 ล้านบาท มูลค่างานที่เหลืออยู่ ณ สิ้นไตรมาส 3 จำนวน 594 ล้านบาท) ซึ่งเป็นส่วนงานที่เร่งด่วนของโครงการ Surface and Facilities จาก APOT แต่ยังไม่ได้รวมงานส่วนที่เหลือของโครงการอีกประมาณ 32,664 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้รับ Letter of Award ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2559 และคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญา EPCC กับ APOT ได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2559 หรือไตรมาสแรกของปีหน้า โดยขณะนี้ APOT ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเจรจาขอสินเชื่อโครงการกับสถาบันการเงิน
นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนงานจะเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่จากบมจ. ปตท. คือ โครงการระบบท่อส่งก๊าซฯ บนบกเส้นที่ 5 โดยคาดว่า ปตท. จะออกข้อเสนอการประกวดราคาในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า