บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ (BTW) เตรียมขยายงานสร้างโรงไฟฟ้าทางเลือกครบวงจร โชว์รายได้ไตรมาส 3 ปีนี้ 472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133% จากปีก่อน แบ็กล็อกในมือ 1,662 ล้านบาท ลุ้นงานใหม่อีกหลายโครงการ

อังคาร ๑๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๖ ๑๔:๑๐
บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ หรือ BTW เผยผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้รวมดีขึ้นจากปีก่อน 133% ด้านแบ็กล็อกไตรมาส 4 กว่า 1,662 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้บางส่วนสิ้นปี 59 แนวโน้มปี 60 มีลุ้นงานโครงการใหญ่

นายโชติก รัศมีทินกรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTWเปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีนี้ในงาน Opportunity Day (บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน) ว่า "ผลประกอบการไตรมาส 3 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 472.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 269.46ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 คิดเป็น 133% โดยรายได้หลักมาจากงานในกลุ่มงานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก(Parts Fabrication) จากลูกค้าในกลุ่มโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับรายได้รวม 9 เดือนแรกของปี 2559 ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ 1,024.81 ล้านบาท ลดลง 531.12 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34.15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 เท่ากับ 25 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 2.44%ลดลง 480.60 ล้านบาท หรือคิดเป็น 95% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อน สำหรับในไตรมาส 3 ของปีนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 3.75 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 25.11 ล้านบาทหรือคิดเป็น 87% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อน สาเหตุการลดลงของผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3 ของปี 2559 มาจากการบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ในไตรมาส 3 ปี 2558 เป็นจำนวนเงิน 47.18 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 3 ของปี 2559 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวน 6.21 ล้านบาท

ส่วนต้นทุนจากการรับจ้างผลิตในไตรมาส 3 ของปี 2559 เท่ากับ 423.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 278.62 ล้านบาท หรือคิดเป็น 193% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน การที่อัตราการเพิ่มขึ้นดังกล่าวสูงกว่าอัตราเพิ่มขึ้นของรายได้ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นลดลง สาเหตุมาจากการแข่งขันที่สูงขึ้นในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว"

นายโชติก กล่าวเสริมว่า "เหตุที่ผลประกอบการไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น แต่ผลกำไรลดลง เป็นผลมาจากช่วงฤดูฝนของปีนี้มีปริมาณฝนมากขึ้น ส่งผลให้งานผลิตที่โรงงานสัตหีบบางส่วนที่ต้องทำนอกอาคาร ต้องชะงักงันเมื่อฝนตก จึงส่งผลให้บริษัทฯ ต้องจ่ายค่าแรงล่วงเวลาให้กับพนักงาน ทำให้ต้นทุนการรับจ้างผลิตเพิ่มขึ้น"

นายโชติก กล่าวต่อว่า "เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแกนของบริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) เพิ่งได้รับงานโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมมูลค่าทั้ง 3โครงการกว่า 372 ล้านบาท สำหรับงานในประเทศเป็นงานผลิตระบบท่อและส่วนประกอบ FGD (Flue Gas Desulfurization) Utility Piping สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้กับบริษัท อัลสตอม (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 - มกราคม 2560

ส่วนงานในต่างประเทศมี 2 โครงการคือ โครงการโรงไฟฟ้า เซนต์ ชาร์ลส์ รัฐหลุยเซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการรับผลิตงานโครงสร้างเหล็กแปรรูป สำหรับ HRSG (Heat Recovery Steam Generator) จำนวน 2 ยูนิต ให้กับ Nooter/Eirksen ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 - มิถุนายน 2560 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม Alba ประเทศบาห์เรน ซึ่งเป็นการรับผลิตงานเหล็กแปรรูปทั้งหมดสำหรับ HRSG (Heat Recovery Steam Generator) จำนวน 3 ยูนิต ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 - สิงหาคม 2560 ให้กับAlstom Middle East FZE ซึ่งงานทั้ง 3 โครงการมีมูลค่ารวม 372 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานและยังไม่รับรู้รายได้มูลค่ารวมประมาณ 1,290 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับงานจำนวน 3 โครงการที่ได้รับมา กลุ่มบริษัทฯ จะมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานและยังไม่รับรู้รายได้มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,662 ล้านบาท "

นายโชติก กล่าวทิ้งท้ายว่า "การที่เบสท์เทค ซึ่งเป็นบริษัทแกนของ BTW มีความสามารถในการรับงานที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการโครงสร้างเหล็กขนาดเล็กไปจนถึงงานโมดูล (Module) ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีกลยุทธ์การเพิ่มรายได้จากอุตสาหกรรมอื่นๆ ในขณะที่อุตสาหกรรมก๊าซและน้ำมันยังอยู่ในภาวะชะลอตัว อีกทั้งบริษัทมีศักยภาพทั้งในด้านบุคคลากรและเครื่องจักรอันทันสมัย ประกอบกับการมีโรงงานอยู่ติดท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ อันถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าเลือกเราเป็นอันดับต้นๆ อีกทั้งตอนนี้กลุ่มบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจารับงานโครงการใหม่เพิ่มเติม รวมถึงการเตรียมเข้าประมูลงานโครงการใหญ่ที่จะเปิดให้ยื่นประมูลช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท"

บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือ Holding Company โดยมีบริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นบริษัทแกน ก่อตั้งในปี 2530 ประกอบธุรกิจให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์และโครงสร้างเหล็ก หรือ Steel Fabrication ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติร่วม 30 ปี โดยกลุ่มของงานบริการหลักประกอบด้วย งานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ หรือ โมดูล (Modularization) ซึ่งเป็นการผลิตกลุ่มชิ้นงานเหล็กหรือระบบการผลิตแยกเป็นหลายโมดูลเพื่อนำไปประกอบในโครงการอุตสาหกรรมหนักขนาดใหญ่ และงานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก หรือ Parts Fabrication ได้แก่ งานระบบท่อ งานแปรรูปและประกอบถังทนแรงดันและถังบรรจุและงานโครงสร้างเหล็ก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version