แนวโน้มตลาดเทรดหุ้นนอกปีหน้าสดใส บล.กสิกรไทยเตรียมแผนเพิ่มฐานนักลงทุน

อังคาร ๑๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๖ ๑๔:๓๘
ครึ่งปีหลังหุ้นไทยแกว่งหนัก นักลงทุนแห่เทรดหุ้นนอก ดันบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศบล.กสิกรไทยโตเกินเป้าหลังเปิดตัวไม่ถึงปี มองผลการเลือกตั้งอเมริกากระทบตลาดขนาดไหนยังต้องรอดูอาการ เผยโครงการแข่งเทรดหุ้นนอกผลตอบรับดี เตรียมแผนให้ความรู้ต่อเนื่อง

ดร.สุทธิสิทธิ์ แจ่มดี รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจหลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2-3 ของปีที่ผ่านมาจำนวนนักลงทุนไทยที่สนใจเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศกับบล.กสิกรไทยมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในส่วนของนักลงทุนรายบุคคลและนักลงทุนสถาบัน ทำให้ปัจจุบันจำนวนบัญชีซื้อขายต่างประเทศของบล.กสิกรไทย มีจำนวนกว่า 300 บัญชี จากเป้าที่ตั้งไว้ 100 บัญชีสำหรับปีแรกที่เริ่มเปิดให้บริการ จำนวนลูกค้าและบัญชีที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯกำหนดไว้ เป็นผลมาจากการเริ่มเปิดให้บริการในช่วงเวลาที่เหมาะสมทั้งจากกฎเกณฑ์ของหน่วยงานที่เปิดกว้างขึ้นและภาวะการลงทุนในตลาดไทยมีความผันผวน อีกทั้งข้อเสนอและบริการที่ลูกค้าได้รับจากบล.กสิกรไทยมีความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นอย่างชัดเจน ซึ่งนับเป็นความแตกต่างที่ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเปิดบัญชีและลงทุนในตลาดต่างประเทศผ่านบล.กสิกรไทยโดยมีมูลค่าการซื้อขายในช่วงไตรมาสที่ 3 เพิ่มสูงขึ้นเกือบ70% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและในเดือนตุลาคมเพิ่มสูงขึ้นถึง 25% จากมูลค่าการซื้อขายในเดือนก่อนหน้าหลังจากที่ได้มีการจัดโครงการThe Global Trading Challenge ซึ่งเป็นโครงการที่จัดขึ้นเน้นให้ความรู้แก่นักลงทุนที่สนใจการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ เปิดให้ทดลองซื้อขายผ่านระบบซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศแบบจำลองของ บล.กสิกรไทย พร้อมเข้าคอร์สอบรมเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดต่างประเทศ จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งนับว่าโครงการนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจในการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดต่างประเทศและกล้าที่จะตัดสินใจลงทุนมากขึ้น

โครงการ The Global Trading Challenge เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาโดยมีนักลงทุนให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 600 ราย มีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ 100 ราย ซึ่งทั้งหมดได้เข้าร่วมอบรมคอร์สพิเศษในหัวข้อสำคัญสำหรับการลงทุนในหุ้นต่างประเทศจากวิทยากรทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งได้สิทธิ์ในการทดลองซื้อขายบนระบบซื้อขายจำลอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างประสบการณ์ด้านการลงทุน ให้นักลงทุนมีความพร้อมก่อนออกไปซื้อขายในสนามจริง

ตั้งแต่ช่วงกลางปีทีผ่านมาตลอดถึงปีหน้ามองว่าจะเป็นปีแห่งการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการลงทุนมีนโยบายที่เปิดกว้างและเอื้ออำนวยให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในจังหวะที่ตลาดไทยอาจมีความผันผวนสูงสิ่งที่สังเกตุได้ชัดเจน คือความตื่นตัวเรื่องตลาดต่างประเทศของนักลงทุนจากกรณีการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา ซึ่ง เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว นักลงทุนหลายคนเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาและโลกนี้กลายเป็นยุคของดอนัลด์ ทรัมป์ (Trump nation or era) จากเงื่อนไขที่ว่าพรรคริพับลิกันของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เสียงข้างมากทั้งในรัฐสภาและวุฒิสภาเป็นเวลาสองปีเต็มจึงคาดไปว่าจะสามารถดำเนินการตามนโยบายสุดโต่งต่างๆ ที่ประกาศไว้ช่วงหาเสียงได้จริง ทำให้ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีการส่งต่อรายละเอียดของนโยบายเหล่านั้นการทางโซเซียลมีเดียมากมาย พร้อมเริ่มแนะนำหุ้นที่น่าจะได้รับผลประโยชน์และผลกระทบทางลบ

อย่างไรก็ตามการที่ทรัมป์จะได้รับการยกมือสนับสนุนจากสมาชิกทั้งสองสภาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีผู้ต่อต้านอยู่ในพรรคเดียวกันจำนวนหนึ่งซึ่งกว่าจะประสานรอยร้าวกันลงตัวคงใช้เวลาพอสมควร ยังไม่รวมการเดินขบวนต่อต้านจากฝากประชาชน ดังนั้นโครงการต่างๆ อาจเสร็จล่าช้ากว่าที่คาด แต่ถ้าทำได้จริง ในระยะกลาง เงินเฟ้อจะสูงขึ้นจากอัตราภาษีที่ต่ำลง การกีดกันการนำเข้าสินค้า ราคาพลังงานที่สูงขึ้น ค่าแรงงานที่สูงขึ้น จะผลักดันให้เศรษฐกิจและหุ้นเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนในระยะยาวสุ่มเสี่ยงกับภาวะฟองสบู่อย่างที่เคยประสบกันมา ในส่วนประเทศอื่นๆ ที่อาจโดนกระทบคือประเทศจีน เพราะได้ดุลการค้าจากสหรัฐในปริมาณสูง รวมถึงเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ เพียงแค่กรณีการกีดกันการนำเข้าสินค้าผลิตจากจีนก็อาจทำให้เศรษฐกิจจีนมีปัญหาแล้ว โดยเฉพาะราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่สูงขึ้นมากอย่างรวดเร็วในปีนี้จนเริ่มเป็นหัวข้อสนทนาว่าจีนจะเดินเกมส์อย่างไร สุดท้าย เรื่องราวต่างๆ ยังไม่จบเพราะจะมีการเลือกตั้งนายกของออสเตรีย โหวตของอิตาลี และ FED ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งทั้งหมดจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ในระยะสั้น คงเป็นช่วงรอดูอาการก่อนตัดสินใจ

ด้านแผนการดำเนินงานของบริษัทฯจะยังคงเดินหน้าขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อสนองความต้องการของนักลงทุนให้มากขึ้น พร้อมกับการพัฒนาเรื่องข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยการทำข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลของแต่ละตลาดจากพันธมิตรที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ เชื่อถือได้ เพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลมากพอที่จะใช้ศึกษาก่อนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO