นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยถึง กรณีที่นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ได้แถลงข่าวกล่าวหา กปภ.มีความไม่โปร่งใสในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านมานั้นว่ากปภ.ไม่สามารถละเลยการตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา โดยมีการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง และนำเสนอข่าวเป็นระยะ ๆ รวมทั้งได้รายงานทุกประเด็นต่อคณะกรรมการ กปภ.และกระทรวงมหาดไทยโดยลำดับ
ขอยืนยันว่า นอกจากค่านิยมองค์กรที่พนักงาน กปภ.ยึดถือในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ยึดมั่นในหลักกฎหมาย และหลักจริยธรรมแล้ว กปภ.ยังให้ความสำคัญกับนโยบายป้องกันและปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น โดยมีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี พร้อมระบบตรวจสอบภายในที่เป็นอิสระและเป็นมาตรฐานภายใต้การควบคุมสอบทานของคณะกรรมการตรวจสอบที่แต่งตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ.2522 นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการ กปภ. และคณะอนุกรรมการอีก 10 คณะ เป็นผู้กำกับดูแลและกลั่นกรองกลไกการดำเนินงานของ กปภ. ตาม พ.ร.บ. กปภ. พ.ศ.2522 อย่างใกล้ชิด ในส่วนของการบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำสะอาดใช้อย่างทั่วถึงเพียงพอและรวดเร็วนั้น กปภ.มีแนวปฏิบัติที่เน้นการดำเนินงานตามกระบวนการที่กำหนดภายใต้ข้อกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ วิธีปฏิบัติงาน มติคณะรัฐมนตรี ประกาศหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง โดยดำเนินโครงการอย่างมีธรรมาภิบาล มีจริยธรรม โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ยึดประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่ากลไกตรวจสอบของ กปภ.ข้างต้นมีประสิทธิผล นอกจากการ ทำข้อตกลง (MOU) กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริตทุกรูปแบบให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และการเข้าร่วมประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน โดย กปภ.ได้รับผลประเมินในเกณฑ์ดีติดต่อกัน 2 ปีแล้ว ล่าสุด กปภ.ยังได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งมอบหมายให้นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เข้ามาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายของ กปภ. เพื่อร่วมตรวจสอบข้อร้องเรียนต่าง ๆ ให้ได้ข้อยุติต่อไป