" COL มีรายได้จากการขาย ไตรมาสที่ 3 ปีนี้ จำนวน 2,758 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.57% จากไตรมาส 3 ของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวดจำนวน 90 ล้านบาท ลดลง 9.31% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยทั้งกลุ่มธุรกิจเรายังเติบโตอย่างมั่นคง มีการบริหารจัดการธุรกิจที่มีประสิทธิภาพขึ้น โดยมีธุรกิจออฟฟิศเมทและบีทูเอสเป็นฐานธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งที่คอยส่งเสริมธุรกิจออนไลน์ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการเติบโตของบริษัทในอนาคต" นายวรวุฒิกล่าว
โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 มีกำไรขั้นต้น จำนวน 681 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุหลักจากกลยุทธ์การปรับส่วนผสมของสินค้าที่มีประสิทธิผลดี โดยเฉพาะในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องเขียน ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 24.68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 24.43% มีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 จำนวน 90 ล้านบาท ลดลง 9 ล้านบาท หรือลดลง 9.31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสนี้มีส่วนแบ่งจากผลการขาดทุนในบริษัทร่วม จำนวน 22 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิที่ไม่รวมผลการขาดทุนในบริษัทร่วมในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 เพิ่มขึ้นประมาณ 13% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีทำกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นณ วันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีทรัพย์สินรวมจำนวน 7,943 ล้านบาท มีหนี้สินรวมจำนวน 2,747 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 5,196 ล้านบาท
ส่วนแผนงานบมจ.ซีโอแอล ยังคงรักษาฐานรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเตรียมแผนงานธุรกิจในระยะสั้นถึงะระยะยาวเอาไว้รองรับ ได้แก่ การมุ่งมั่นรักษาฐานรายได้ตามเป้าหมาย จากการขยายสาขา การส่งเสริมการขายและการทำกิจกรรมการตลาด รวมถึงปรับปรุงดีไซน์สาขาให้สวยงามทันสมัยเพื่อดึงลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการกระตุ้นยอดขาย พร้อมกับเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในแต่ละธุรกิจลง นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบธุรกิจออนไลน์ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อรองรับฐานรายได้ที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต และมุ่งเน้นไปในการให้บริการเป็นเลิศ และรักษาสภาพคล่อง รักษาฐานะการเงินให้แข็งแกร่ง รวมถึงประมาณการกระแสเงินสดให้เพียงพอต่อแผนการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตด้วย