หลังจากที่ โดวิซิโอโซ ควบยางมิชลินรุ่น Power Rain คว้าชัยชนะที่สนามเซปัง ซึ่งฝนตกลงมาอย่างกระหน่ำ เซปังนับเป็นสนามรองสุดท้ายก่อนจบฤดูกาล 2016 แอนเดรีย โดวิซิโอโซ (ทีม Ducati) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
"ผมดีใจกับผลการแข่งขันมาก เพราะผมรู้สึกสั่นๆ เล็กน้อยที่ข้างขวาในตอนออกตัว แต่ไม่ได้แย่ลงในระหว่างการแข่งขัน จึงสามารถกลับมาได้อีกครั้ง ผมพอใจกับสมรรถนะของยางมิชลินที่คงที่ ยางมิชลินที่แข็งขึ้นนี้สามารถเกาะพื้นสนามได้เป็นอย่างดี และทำให้สามารถขี่ได้คงที่ตลอดตั้งแต่ต้นจนถึงเส้นชัย ซึ่งปกติเป็นไปได้อยากมาก เราไม่ค่อยได้ขี่บนพื้นแห้งเท่าใดนัก แต่เราก็ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างดี เราไม่ได้ลองยางแบบ Hard ในล้อหน้า เพราะว่ายาง Medium นั้นดีที่สุดและในล้อหลังเป็นแบบ Soft ซึ่งก็ดีมาก ผมคิดว่าถ้าเป็นการแข่งบนพื้นสนามแห้งจะดีมากทีเดียว"
นิโคลัส กูแบร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค และที่ปรึกษารายการ โมโต จีพี กลุ่มบริษัทมิชลิน กล่าวว่า
"นับเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่สภาพอากาศมีผลอย่างมากต่อการแข่งขันตลอดรายการ ตลอดสามวัน ไม่มีการแข่งใดเลยที่สภาพพื้นสนามจะแห้งตลอด เราจึงไม่ได้เห็นศักยภาพของยาง Slick tyre อย่างเต็มที่ พื้นสนามที่ชื้นทำให้นักขี่ต้องระมัดระวัง แต่พวกเราก็ยังรู้สึกมั่นใจกับยางทั้งล้อหน้าและล้อหลัง เราหวังว่าฝนจะไม่ตกแต่ทว่าความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะฝนตกและทำให้พื้นสนามแข่งอันตรายมากขึ้น การออกตัวให้ช้าลงนั้นปลอดภัยกว่า ตลอดการแข่งขันเราเห็นการแซงที่น่าประทับใจ และมันดีที่เห็นว่านักขี่มีความมั่นใจที่จะทำเช่นนั้น ยางชนิด rain tyre ทำงานได้ดีในสภาพพื้นสนามแบบนี้ และเราพอใจมากที่ยางของมิชลินมีสมรรถนะคงที่ตลอดการแข่งขัน ผมขอแสดงความยินดีกับแอนเดรีย โดวิซิโอโซ ในชัยชนะครั้งนี้ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่เราจะมีผู้ชนะถึงเก้าคนด้วยกันในฤดูกาลเดียว และยังเป็นฤดูกาลที่มิชลินได้เข้ามาสนับสนุนอีกด้วย ตอนนี้เรามุ่งหน้าไปต่อที่วาเลนเซียในรอบสุดท้าย นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูกาลใหม่เพราะในสัปดาห์ต่อไปจะมีการทดสอบที่สำคัญ เราจะเตรียมยางแบบใหม่ให้นักขี่ได้ทดสอบดู"
ในรายการนี้ เซปังยังทำสถิติมีผู้เข้าชมการแข่งขันถึง 95,316 คนด้วยกัน ส่วนมิชลินและผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดได้เดินทางกลับไปยังยุโรปเพื่อการแข่งขันครั้งที่ 18 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของฤดูกาลนี้ที่วาเลนเซียในวันที่ 13 พฤศจิกายน