แม้จะเป็นทอล์กโชว์ แต่การเปิดตัวของ นิ้วกลม กลับมาสไตล์ของนักเขียน ทักทายผ่านโน้ตบุ๊คเล่นเอาผู้ชมหัวเราะฮาในมุกตลกของเขา หลังจากที่ทักทายด้วยตัวหนังสืออยู่ไม่นาน ก็ได้เวลาที่เขาจะจับไมค์ขึ้นมาทอล์กจริงจัง เริ่มเปิดประเด็นทอล์กแรกด้วยหัวข้อ เมล็ดพันธุ์และดอกไม้สามารถเติบโตได้ในกองขยะ โดยยกตัวอย่างคน 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือ เบิ่ง ทวีศักดิ์ ที่เติบโตมาในครอบครัววงปี่พาทย์และชีวิตดำเนินตามเส้นทางที่ปู่ได้ขีดเส้นทางชีวิตให้จนกลายเป็นนักระนาดเอกของกรมศิลปากร ส่วนอีกฝั่ง ปอนด์ Rahboy (ราห์บอย) และ จ๋อม Jahrom (จารอม) สองหนุ่มที่เลือกเดินทางผิดไปอยู่ในแก๊งเด็กเกเร แต่ด้วยความที่ชอบเพลงแร็ปเหมือนกัน ทำให้พวกเขาหลุดออกมาจากวงจรอุบาทว์และกลายมาเป็นแร็ปเปอร์มีชื่อเสียงได้ในที่สุด ความพิเศษของโชว์นี้อยู่ตรงที่ การนำเพลงแร็ปและการเล่นระนาดมาผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืนและน่าสนใจไม่น้อย ผู้ชมต่างปรบมือด้วยความชื่นชม
ต่อจากนั้นนิ้วกลมก็เล่าถึงความแปลกและแตกต่างที่ทุกคนล้วนมีอยู่ในตัว หรือความแตกต่างระหว่างเจนเนอเรชั่น เพื่อที่จะสื่อให้ผู้ชมได้เห็นและยอมรับถึงความแตกต่างระหว่างกัน ต่อด้วยประสบการณ์อันสุดแสนประทับใจจากการได้เดินทางไปในต่างแดน การได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง และตบท้ายด้วยเรื่องของปัญหาอุปสรรคที่ทุกคนต้องเจอ เป็นเหมือนกับด่านที่เราต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้ และทอล์กโชว์ครั้งนี้ ก็ถือเป็นด่านสำคัญด่านหนึ่งที่นิ้วกลมต้องผ่านไปให้ได้เช่นกัน
เวลา 2 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปิดท้ายด้วยมิวสิควิดีโอเพลง ภูเขาแห่งความสุข ที่นิ้วกลมเป็นผู้แต่งคำร้องด้วยตัวเอง และขับร้องโดย ปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว ทำให้ด่านของนิ้วกลมในวันนี้ผ่านและจบลงไปอย่างสวยงาม เสียงปรบมือดังไปทั่วทั้งโรงละคร หวังว่าจะได้ชมทอล์กโชว์ของผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ในโอกาสต่อไป