อัฟวาแลนท์ เปิดตัว ONEWEB 4.0 มิติใหม่ของการพัฒนาซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่น ระดับองค์กรที่รวดเร็ว คล่องตัว ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นที่มีการแข่งขันสูโดยทีมงานไทย และสอดคล้องกับนโยบายการผลักดันประเทศที่มุ่งก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ พร้อมมั่นใจว่าหากไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้เองจะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศและสามารถส่งออกไปยังตลาดโลกเพื่อสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ และในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%
อัครพล บุญวรเศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัฟวาแลนท์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชั่นและเทคโนโลยีแพลตฟอร์มชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์ของธุรกิจและเทคโนโลยีเคลื่อนเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ส่งผลให้เทคโนโลยีแพลตฟอร์มใหม่เข้ามามีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นคลาวด์(Cloud) การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า (Big Data Analytic) โซเชียล เน็ตเวิร์ค โมบิลิตี้ Internet of Thing (IoT) และปัญญาประดิษฐ์ หรือArtificial Intelligence (AI) ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนโฉมองค์กรธุรกิจสู่ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น เพื่อรองรับธุรกิจรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถขององค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ดังนั้นทุกองค์กรจึงให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพและรองรับการแข่งขันในเวทีโลก
ล่าสุดเปิดตัว ONEWEB 4.0 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้นด้วยทีมงานคนไทย โดยเป็น 'All-In-One Digital Platform' ที่สามารถปฏิรูปความคิดของคนในองค์กรให้ออกมาเป็นแอพพลิเคชั่นและสามารถตอบโจทย์ธุรกิจ การใช้งานของคนในองค์กรได้อย่างครอบคลุม มั่นคง และยั่งยืนในยุคดิจิทัล
ทรานส์ฟอร์เมชั่น จากการพัฒนาผสมผสานกับประสบการณ์อันยาวนานของบริษัทฯทำให้ ONEWEB 4.0 รองรับการเติบโตขององค์กรทุกขนาดทุกอุตสาหกรรมให้สามารถออกแบบและพัฒนาแอพพลิเคชั่นธุรกิจ(Business Application) ขององค์กรเพื่อใช้ในการแข่งขันทำธุรกิจอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการปรับปรุงระบบในระยะยาวอีกด้วย
"การพัฒนา ONEWEB 4.0 ยังสอดคล้องกับนโยบายการผลักดันประเทศที่มุ่งก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดิจิทัลของประเทศจะไปอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ถ้าเราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้เอง โดยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และยังสามารถส่งออกไปยังตลาดโลกเพื่อสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ อย่างไรก็ตามในฐานะองค์กรที่พัฒนาเทคโนโลยี ONEWEB เราเป็นจิ๊กซอร์เล็กของการขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 ให้สำเร็จได้" อัครพล บุญวรเศรษฐ์ กล่าว
ที่ผ่านมาบริษัทฯได้พัฒนาแพลตฟอร์ม ONEWEB ขึ้นมากว่า 7 ปี โดยมี ONEWEB เวอร์ชั่น 1.0 – 3.0 ซึ่งเปรียบเหมือนเครื่องมือที่ช่วยเร่งความเร็วในการพัฒนาและปรับแต่งแอพพลิเคชั่นที่สามารถลดกระบวนการทำงาน เวลาของฝ่ายไอทีได้กว่า 80% ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นมาได้นั้นจะมีลักษณะเป็นเว็บเบสแอพพลิเคชั่นระบบเปิด(Open Standard) และในส่วนของเว็บเทคโนโลยี อาทิ Java, HTML 5 และ CSS 3 อยู่ในฉากหลังโดยแบ่งหน้าที่การพัฒนาแอพพลิเคชั่นออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนของApp Designer จะดูแลเรื่องฐานข้อมูล และการปรับแต่ง User interface(UI) ที่ช่วยลดระยะเวลาการปรับแต่งแอพพลิเคชั่นลงได้เป็นอย่างมาก และในส่วนของกระบวนการออกแบบ (Process Designer) คือ เครื่องมือในการออกแบบกระบวนการของธุรกิจ ซึ่งจะทำให้การบริหารระบบการทำงานภายในและภายนอกสอดคล้องและเป็นแบบแผนที่ชัดเจน ส่วนสุดท้าย คือ App Space ซึ่งเป็นโมดูลในการบริหารจัดการแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นมาในองค์กรอย่างบูรณาการ ทั้ง 3 ส่วนเป็นกระบวนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ตรงตามแนวคิดของ Agile Methodology ที่จะช่วยลดความยุ่งยากและเวลาในการจัดทำเอกสารของโครงการในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นทิ้งไป โดยเน้นผลลัพธ์ที่สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ตรงตามความต้องของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นการแก้ปัญหาในกระบวนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบเดิมๆ ที่ใช้เวลานาน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจ หรือใช้เวลาพัฒนานทำให้ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะในยุคดิจิทัล
ข้อมูลล่าสุดของไอดีซี มีการคาดการณ์ว่าจำนวนองค์กรธุรกิจที่มีแผนที่จะริเริ่มดำเนินการในด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในปี 2563 จากปัจจุบัน 22% เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 50% ซึ่งสอดคล้องกับการกำหนดยุทธศาสตร์ ทิศทางการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีของบริษัทฯ เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ สามารถตอบรับกับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นได้อย่างสมบูรณ์ และการดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านบริษัทฯ มีการเติบโตทางด้านแพลตฟอร์ม ONEWEB มากกว่า 100% และในปี 2560คาดว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มของทุกภาคธุรกิจที่ต้องปรับเข้าสู่ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ซึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัทฯ เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมทางด้านการเงินการธนาคาร และธุรกิจประกันภัย พร้อมขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมทางด้านการดูแลสุขภาพ(Healthcare) และด้านการศึกษา โดยเชื่อมั่นว่ากลุ่มลูกค้าใหม่นี้จะเริ่มนำแพลตฟอร์มของบริษัทฯ ไปใช้งานเพิ่มมากขึ้น