มร. เกลน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจยานยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 50 ปี เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้ผนึกพลังทางธุรกิจร่วมกับ เจ เอ ซี มอเตอร์ส ผู้นำธุรกิจผลิตยานยนต์และรถบรรทุกที่มีชื่อเสียงระดับโลก หวังขยายส่วนแบ่งธุรกิจยานยนต์ในประเทศไทย ด้วยการจัดตั้ง บริษัท เจ เอ ซี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อนำเสนอ the All-New JAC "N-Series" Light-Duty Trucks หรือ รถบรรทุกขนาดกลางและเล็ก รุ่น "เอ็น-ซีรีย์" ที่มากคุณภาพในราคาสุดคุ้มค่า เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาดรถบรรทุกขนาดกลางและเล็ก พร้อมเสริมสร้างผลกำไรระดับบิ๊กให้แก่กลุ่มลูกค้าในประเทศไทย ด้านภาพรวมตลาดรถบรรทุกขนาดกลางและเล็กในประเทศไทยนั้นคาดการณ์ว่าในปี 2559 จะมีจำนวนรวม 11,000 คัน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 คัน ในปี 2560 นอกจากนี้ การเปิดเออีซียังเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายขอบเขตทางเศรษฐกิจออกไปกว้างขวางยิ่งขึ้น ดังนั้น ความต้องการรถบรรทุกสินค้าจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ประกอบกับการที่รัฐบาลไทยได้ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยเหตุนี้เองประเทศไทยจึงเหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถบรรทุกไปยังประเทศในกลุ่มเออีซี
"ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของกลุ่มประเทศอาเซียนและเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกป้อนสู่ทุกประเทศในอาเซียน ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล จึงเล็งเห็นถึงศักยภาพเพื่อใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์หลักในการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งในอาเซียนและในไทย และผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เห็นถึงโอกาสการเติบโตในปัจจุบันก็คือ รถบรรทุกขนาดกลางและเล็ก (Light-Duty) และด้วยแผนการขยายธุรกิจดังกล่าวทำให้บริษัทฯ เสาะหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อจะสร้างโมเดลดังกล่าวให้เกิดขึ้นอย่างเต็มศักยภาพ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับ เจ เอ ซี มอเตอร์ส ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตยานยนต์และรถบรรทุกระดับโลกที่ผสานคุณภาพกับประสิทธิภาพได้อย่างลงตัว จนสามารถเป็นผู้ส่งออกรถบรรทุกขนาดกลางและเล็กอันดับหนึ่งของประเทศจีนตลอด 14 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการรุกตลาดในครั้งนี้ ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล ได้นำ the All-New JAC "N-Series" Light-Duty Trucks รวม 3 รุ่นล่าสุด มาเปิดตลาดในประเทศไทยและในอาเซียนในครั้งนี้ โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33 (The 33rd Thailand International Motor Expo 2016) ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2559 ณ บริเวณบูธ เจ เอ ซี หมายเลข B03-1 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี โดยในช่วงเปิดตลาดนั้นจะใช้งบประมาณการตลาดรวมกว่า 70 ล้านบาท" มร. เกลน ตัน กล่าวถึงวิสัยทัศน์ทางธุรกิจครั้งใหม่
ด้านแผนการดำเนินธุรกิจของ บริษัท เจ เอ ซี (ประเทศไทย) จำกัด นั้น มร. เกลน ตัน อธิบายเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ วางแผนเพิ่มช่องทางการจำหน่ายด้วยการเพิ่มดีลเลอร์และนำเสนอรถบรรทุกขนาดเล็กที่มากคุณภาพ คุ้มค่า คุ้มราคารุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย ซึ่งมั่นใจว่าภายในปี 2562 จะสามารถเพิ่มเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายให้ได้ 40 แห่ง และขยายเครือข่ายดีลเลอร์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจขนาดเล็กจนถึงธุรกิจระดับองค์กรขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันเรายังมีเครือข่ายการให้บริการหลังการขายของกลุ่มบริษัทตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแข็งแกร่งในบริการหลังการขายรวมทั้งการบริการอีกด้วย และเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านบริการบริษัทฯ ได้จัดเตรียม เจ เอ ซี สปีดไลน์ และโมบายล์ แอสซิสแทนซ์ ที่รองรับการบริการหลังการขายที่รวดเร็วและครอบคลุมลูกค้าของเราอีกด้วย
สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและเล็ก the All-New JAC "N-Series" Light-Duty Trucks 3 รุ่นใหม่ล่าสุดที่จะนำเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยครั้งนี้ ประกอบด้วย
· N43 – รถบรรทุก 4 ล้อขนาดเล็ก สำหรับการขนส่งได้ตลอดทั้งวัน โดยไม่ติดข้อจำกัดเรื่องเวลาการเข้าเขตเมืองและชานเมือง ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 649,000 บาท โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้
- ตัวรถมีน้ำหนักเบากว่ารถรุ่นใกล้เคียงในท้องตลาด ทำให้สามารถจดทะเบียนแบบไม่ติด เวลาได้
- ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทคโนโลยีใหม่ ทำให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
· N65 – รถบรรทุก 6 ล้อขนาดกลาง ที่มาพร้อมประสิทธิภาพการบรรทุกสูงถึง 6.5 ตัน ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 699,000 บาท โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้
- เครื่องยนต์ดีเซลเทคโนโลยีใหม่ ทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
- บรรทุกน้ำหนักได้มากกว่าคู่แข่งในท้องตลาดกว่า 300 กิโลกรัม
- ลดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง ต้นทุนขนส่ง และค่าบำรุงรักษา
· N85 – รถบรรทุก 6 ล้อประสิทธิภาพการบรรทุกสูงถึง 8.5 ตัน จำหน่ายในราคา 899,000 บาท โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้
- เครื่องยนต์ "คัมมินส์ (Cummins)" รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง น้ำหนักเบา แต่ให้แรงบิดมากถึง 440 นิวตันเมตรที่รอบต่ำเพียง 1,200 รอบ ประหยัดน้ำมัน และเพื่อการบรรทุกที่มากขึ้น
- เทคโนโลยีระบบเบรกลมล้วน ที่มีเฉพาะในรถบรรทุกขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดระยะ
การเบรก
- ออกแบบพื้นที่บรรทุกเพิ่มมากขึ้นด้วยความยาวแชสซี 5,255 มิลลิเมตร วัดจากท้ายหัวเก๋งจนถึงปลายสุดของแชสซี
- ลดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง ต้นทุนขนส่ง และค่าบำรุงรักษา
ด้าน มร. ออสการ์ ยู ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป เจ เอ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า เจ เอ ซี มอเตอร์ส เชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับ ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ด้านธุรกิจยานยนต์และเชี่ยวชาญการทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมากนั้น จะทำให้รถบรรทุกขนาดกลางและเล็กของ เจ เอ ซี ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน ทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับลูกค้าชาวไทยในการเลือกใช้รถบรรทุกขนาดกลางและเล็กที่มีความน่าเชื่อถือ ทำให้ประหยัดต้นทุน เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจและเพิ่มผลกำไรให้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน เจ เอ ซี มอเตอร์ส มีตัวแทนจำหน่ายพร้อมเครือข่ายในการให้บริการกว่า 2,000 แห่ง และผลิตรถบรรทุก เจ เอ ซี ส่งออกไปยัง 130 ประเทศทั่วโลก และนอกจากผลิตรถบรรทุกขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ แล้ว เจ เอ ซี ยังผลิตรถตู้ รถยนต์เอ็มพีวี รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (เอสยูวี) รถยนต์นั่งแบบซีดาน รถโดยสาร แชสซีสำหรับรถโดยสาร เครื่องยนต์ มอเตอร์ส ชุดส่งกำลัง และชิ้นส่วนสำคัญต่างๆในธุรกิจยานยนต์ อีกด้วย ด้านนโยบายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เจ เอ ซี มอเตอร์ส ค่อนข้างให้ความสำคัญอย่างมาก โดยตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้นใน 3 เมืองหลัก ทั่วโลก ได้แก่ เมืองเหอเฟย ประเทศจีน, เมืองตูริน ประเทศอิตาลี และกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดย เจ เอ ซี ได้เริ่มพัฒนา คิดค้นและผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าออกสู่ตลาดด้วยเช่นกัน เจ เอ ซี มีกำลังการผลิตรถยนต์ที่ 1,200,000 คันต่อปี และมีกำลังการผลิตเครื่องยนต์ที่ 800,000 เครื่องต่อปี ทำให้ เจ เอ ซี ติด 1 ใน 10 บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน ที่ล่าสุดในปี 2558 สามารถสร้างยอดขายรถรวมกว่า 580,000 คัน
ร่วมสัมผัสประสบการณ์ความคุ้มค่าในแบบ "3 บิ๊กส์ (3 BIGs)" บิ๊ก เซฟ (BIG Save), บิ๊ก ควอลิตี้ (BIG Quality) และ บิ๊ก แวลลู (BIG Value) ที่รวมไว้ใน The All-New JAC "N-Series" Light Duty Trucks เป็นครั้งแรกในเมืองไทยในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2559 ณ บริเวณบูธ เจ เอ ซี หมายเลข B03-1 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.jac.co.th