- พ.ย. ๒๕๖๗ ศึกษาดูงาน
- พ.ย. ๓๔๔๕ คทช. เร่งจัดที่ดินทำกินให้ประชาชนที่จังหวัดน่าน
- พ.ย. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: MTC ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 มอบถุงยังชีพจำนวน 200,000 ถุง มูลค่า 60 ล้านบาท ให้กับประชาชนทั่วประเทศ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า อิทธิพลของมรสมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยตั้งแต่วันที่ 1 – 3 ธันวาคม 2559 มีจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ตรัง ปัตตานี ยะลา สุราษฎร์ธานี กระบี่ รวม 34 อำเภอ 127 ตำบล 508 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24,479 ครัวเรือน70,812 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ให้เร่งแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรงอย่างเต็มกำลัง โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ติดตามสภาพอากาศ และพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ชายฝั่งทะเล พื้นที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด หากสถานการณ์รุนแรง ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปอาศัยในพื้นที่ปลอดภัยโดยด่วน และปฏิบัติตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอย่างเคร่งครัด พร้อมประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป รวมถึงเตรียมพร้อมจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวให้พร้อมรองรับการอพยพผู้ประสบภัย เตรียมเรือท้องแบน รถบรรทุก ยานพาหนะต่างๆ ให้บริการขนย้ายสิ่งของและอพยพผู้ประสบภัย ตลอดจนจัดบริการต่างๆ ทั้งบริการทางการแพทย์ สาธารณสุข บริการอาหาร เครื่องดื่ม อาหารแห้งแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย นอกจากนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร ฝ่ายพลเรือน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มูลนิธิอาสาสมัครเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำระบายน้ำลงสู่ทะเลและแหล่งน้ำสาธารณะ เพื่อให้น้ำไหลระบายอย่างรวดเร็ว ตลอดจนได้เตรียมพร้อมสิ่งของสำรองจ่ายไว้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต สำหรับแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม จากการติดตามคาดการณ์สภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 3 – 5 ธันวาคม 2559 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างช้าๆ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงมากขึ้น ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ดังนี้ วันที่ 3 – 4 ธันวาคม 2559 ฝนตกหนักบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ช่วงวันที่ 4 – 5 ธันวาคม 2559 ฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2559 ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ ประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป