นายวศิน วัฒนวรกิจกุล Managing Director, Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า ในปีนี้ภายหลังจากมีการแก้ไขประกาศเพื่อขยายสิทธิลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุน LTF ไปจนถึงปี 2562 โดยให้ถือครองอย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน และเปิดโอกาสให้ บลจ.ต่างๆ ออกเสนอขายกองทุน LTF ใหม่ๆ เป็นทางเลือกให้นักลงทุนได้ ก็มีกองทุน LTF ออกมาเสนอขายกับนักลงทุนจำนวนมากเกือบ 20 กองทุน รวมกับของเดิม 52 กองทุน ทำให้กองทุน LTF มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 70 กองทุน
"การมีกองทุน LTF ใหม่ๆ เกิดขึ้นถือเป็นโอกาสดีของนักลงทุนที่มีทางเลือกเพิ่มขึ้น แม้กองทุน LTF ทั้งหมดจะเป็นกองทุนหุ้น แต่ก็มีความหลากหลายในนโยบายการลงทุนที่กำหนดไว้ รวมถึงสไตล์การลงทุนของแต่ละบริษัทจัดการ และมีทั้งแบบที่มีนโยบายการจ่ายปันผลและไม่มีการจ่ายปันผล ดังนั้น การเลือกกองทุน LTF ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูล ดูนโยบาย และทำความเข้าใจกับสไตล์การบริหารจัดการกองทุนนั้นๆ เลือกกองทุนที่ตนเองเข้าใจ และพอใจ โดยไม่ใช้ผลการดำเนินงานในอดีตมาตัดสินใจเพียงอย่างเดียว" นายวศิน กล่าว
สำหรับกองทุนบัวหลวง มีกองทุน LTF ทั้งสิ้น 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว (BLTF) ที่เน้นการลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี มีความสามารถทำกำไรชัดเจน และสามารถลงทุนได้ในระยะยาว รวมทั้งจับจังหวะเข้าซื้อขายที่ดี กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 (BLTF75) ที่มีนโยบายการลงทุนเหมือน BLTF แต่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสูงสุดไว้ที่เฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 75 ในรอบปีบัญชี ทำให้มีความเสี่ยงและโอกาสรับผลตอบแทนโดยรวมต่ำกว่า BLTF และกองทุน LTF ใหม่ กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัยสี่หุ้นระยะยาวปันผล (BBASICDLTF) ที่ปิด IPO ไปด้วยยอดลงทุนสูงถึง 2,288 ล้านบาท เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กองทุน BBSICDLTF เน้นลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่มและยารักษาโรค เกาะเทรนด์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมีชีวิตที่ดี "กินดี อยู่ดี ดูดี สุขภาพดี" และยังเพิ่มโอกาสการลงทุนโดยสามารถเลือกลงทุนต่างประเทศในหุ้นกลุ่มนี้ได้ไม่เกิน 25% และเป็นกองทุนที่มีนโยบายการจ่ายปันผล
ทั้งนี้ กระบวนการลงทุนของกองทุนบัวหลวง คือ การมองไปข้างหน้าแสวงหาโอกาสของผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวว่าปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าจะมีเมกะเทรนด์อะไรเกิดขึ้น มี theme อะไรน่าสนใจ และคัดสรรหาธุรกิจกิจการที่ได้ประโยชน์ หรือรู้จักใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนที่เกิดขึ้นเหล่านั้น แล้วเข้าไปลงทุนเพื่อหวังการเติบโตอย่างเป็นกอบเป็นกำในอนาคต