ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 30 สืบสานกีฬาเรือใบ มรดกอันภาคภูมิ ร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และแสดงความจงรักภักดี ถวายชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10

ศุกร์ ๐๙ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๐:๕๖
งานแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า หนึ่งในรายการแข่งขันเรือใบอันทรงเกียรติแห่งเอเชีย ครบรอบการจัดงานปีที่ 30 อย่างเป็นทางการในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 10 ธันวาคม 2559 ณ โรงแรมกะตะบีช รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิด "สืบสานกีฬาเรือใบ มรดกอันภาคภูมิ"

การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ภายใต้การอำนวยการของสโมสรเรือใบราชวรุณ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมด้วยกองทัพเรือ สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และจังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วยการแข่งขันเรือใบใหญ่ทั้งประเภทคีลโบ้ทและมัลติฮัลล์หลากหลายรุ่น และ อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส ซึ่งดึงดูดทัพนักกีฬาชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมการแข่งขันกันอย่างคับคั่ง โดยในพิธีเปิดการแข่งขันปีนี้ นักกีฬาเรือใบ ผู้เข้าร่วมงาน และคณะผู้จัดงานได้ร่วมยืนสงบนิ่งโดยพร้อมเพรียงกันเป็นเวลา 89 วินาที เพื่อแสดงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำหรับเรือใบที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกลำจะเข้าร่วมพิธีสวนสนามทางทะเลบริเวณอ่าวกะตะ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10

นายเควิน วิทคราฟท์ ประธานคณะกรรมการจัดงานแข่งขันภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า กล่าวว่า "งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ถือเป็นงานแข่งขันเรือใบนานาชาติที่สำคัญของภูมิภาคเอเชีย สำหรับการจัดงานในปี พ.ศ. 2559 นี้ ถือเป็นการจัดงานเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช องค์อุปถัมภ์กีฬาเรือใบไทย และมีการจัดพิธีสวนสนามทางทะเลเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในวันที่ 9 ธันวาคม 2559"

ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับ ในฐานะหนึ่งในสถานที่จัดงานแข่งขันเรือใบระดับนานาชาติชั้นเลิศและเป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งนอกจากทำให้นานาประเทศได้ตระหนักว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของกีฬาเรือใบแล้ว ยังช่วยให้ธุรกิจเรือใบและการท่องเที่ยวทางทะเลมีการเจริญเติบโตอย่างมาก ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยงานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 30 สามารถดึงดูดทีมเรือใบและเรือยอชท์มากกว่า 200 ลำ พร้อมนักกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากกว่า 1,000 คน จากกว่า 30 ประเทศให้เดินทางมาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการและประชาชนในท้องถิ่นอย่างมหาศาล โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาทตลอดสัปดาห์หารจัดงาน ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักกีฬาและนักเดินทางมากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางของ "มหกรรมงานเรือยอชท์ระดับเวิลด์คลาส"

งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ายังเป็นศูนย์กลางของการพัฒนานักกีฬาเยาวชนที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคณะกรรมการจัดงานได้เห็นชอบให้มีการแข่งขันเรือใบเล็ก ภูเก็ต ดิงกี้ ซีรี่ส์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 เพื่อกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนโดยเฉพาะในหมู่สโมสรเรือใบทางภาคใต้ของไทย ทั้งในภูเก็ต พังงา สงขลา รวมถึง ชลบุรี ซึ่งได้ผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักกีฬาเยาวชนที่ต้องการฝึกฝนทักษะและพัฒนาการเล่นในสนามระดับสากล เพื่อสืบสานกีฬาเรือใบตามรอยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็นนักกีฬาเรือใบที่ทรงพระปรีชาสามารถและประสบความสำเร็จอย่างงดงามในระดับสากล"

ประเภทการแข่งขันในปี 2559

การแข่งขันเรือใบใหญ่ทั้งประเภทมัลติฮัลล์และคีลโบ้ทในปีนี้ ประกอบด้วย 12 รุ่น ได้แก่ ไออาร์ซี 0 (เรือ "กรังด์ปรีซ์" นานาชาติ) และรุ่นที่ขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสนานอย่าง ไออาร์ซี 1, ไออาร์ซี 2, พรีเมียร์, แบร์โบ๊ทชาร์เตอร์, โอเพ่นชาร์เตอร์, ไฟร์ฟลาย, เรซิ่งมัลติฮัลล์, ครูซิ่งมัลติฮัลล์, ครูซิ่ง, ปลาทูวันดีไซน์, และ พัลซ์วันดีไซน์ โดยทีมเรือใบผู้ชนะเลิศเมื่อปีที่แล้วอย่าง รีรีไฟน์, เฮอริเคน, ไพน์แปซิฟิก, ทวินชาร์กส์, และป็อปอาย ต่างกลับมาป้องกันแชมป์อีกครั้งในปีนี้

สำหรับรายการเรือใบเล็ก อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส ยังคงจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนานักกีฬาเรือใบเยาวชนในเมืองไทยและกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาเล่นกีฬามากยิ่งขึ้น ซึ่งการแข่งขันในปีนี้แบ่งเป็นรุ่นต่างๆ ได้แก่ ออพติมิสต์ (ชาย), ออพติมิสต์ (หญิง), เลเซอร์เรเดียล, เลเซอร์สแตนดาร์ด, เลเซอร์ 4.7, และ 420

ส่วนรายการภูเก็ต ดิงกี้ ซีรี่ส์ จัดขึ้นระหว่างเดือนกรกฎาคม – พฤศจิกายน โดยมีทั้งรุ่นออพติมิสต์ (ชาย), ออพติมิสต์ (หญิง), และ เลเซอร์ ซึ่งผู้ชนะแต่ละรุ่นจะได้เข้ารับถ้วยรางวัลพระราชทานในพิธีปิดการแข่งขันเช่นเดียวกัน

นายเควิน วิทคราฟท์ กล่าวว่า "เราภูมิใจกับนักกีฬาเรือใบคลื่นลูกใหม่ของเราอย่างมาก ตัวอย่างเช่น แบม-กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม และ กีรติ บัวลง นักกีฬาเรือใบไทยรุ่นเลเซอร์กลุ่มแรกที่ได้ร่วมแข่งขันโอลิมปิกที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งในปีนี้มีนักกีฬาเยาวชนอีก 39 คนที่มีคุณสมบัติเข้าแข่งขันรอบแรกของซีเกมส์ 2017"

ถ้วยรางวัลพระราชทาน

นายระดับ กาญจนะวณิชย์ คณะกรรมการจัดการแข่งขันภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า และในฐานะนักกีฬาเรือใบฝีมือเยี่ยม กล่าวว่า "ถ้วยรางวัลพระราชทานของภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ามีความพิเศษในหลายแง่มุม โดยถ้วยรางวัลต้นแบบเป็นผลงานการออกแบบของ ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล ตัวถ้วยทำจากเงินแท้ ประกอบขึ้นอย่างประณีตงดงามอยู่บนแท่นไม้มะค่า ฐานส่วนล่างประกอบด้วยวงแหวนเก้าชั้น รองรับส่วนบนซึ่งออกแบบเป็นรูปใบเรือเก้าใบที่พลิ้วไหวอยู่บนแท่นเงินราวกับกำลังโลดแล่นอยู่บนท้องทะเล พร้อมจารึกเครื่องหมาย "ภปร." พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 อันเป็นที่รักยิ่งของชาวไทย เสมือนการเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์และพระเกียรติคุณของพระองค์อันเป็นองค์อุปถัมภ์ของงานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า"

พันธมิตรและผู้สนับสนุน

งานแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าจะจัดขึ้นที่โรงแรมกะตะบีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งรับเป็นผู้สนับสนุนสถานที่จัดงานติดต่อกันมาแล้วเกือบ 20 ปี โดยเป็นศูนย์ดำเนินการของคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันและทีมงาน ศูนย์บริการสื่อมวลชน สถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ตลอดจนเป็นสถานที่รับรองห้องพักชั้นเลิศสำหรับผู้สนับสนุนการจัดงาน บุคคลระดับวีไอพี ที่สำคัญคือเป็นสถานที่สำหรับจัดพิธีเปิดและพิธีพระราชทานถ้วยรางวัลภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า

งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า มีองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนร่วมเป็นผู้สนับสนุนจำนวนมาก ได้แก่ กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักการจัดงาน ร่วมด้วยองค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน), และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนผู้ร่วมสนับสนุน ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) โดยมีพันธมิตรสื่อมวลชน ได้แก่ Phuket Gazette, Gazette Radio, The Nation, Prestige, Sea Yachting, The Greater Phuket Magazine, True 4 you, Madame Figaro, Luxury Society Asia, Yachtstyle, The Guide Phuket, RL Magazine, One Coast, และ Phuket Marine Guide

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ