TFD เตรียมรับทรัพย์770ลบ.หนุนเงินทุนแข็งแกร่ง ปี2560พร้อมเทิร์นอะราวด์ตั้งเป้ารายได้ 4,000 ล้านบาท

พุธ ๑๔ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๐:๑๕
บมจ. ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมรับเงินอีก 770 ล้านบาท กลางเดือน ธ.ค.นี้หลังออกRO จำนวน 385 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขาย 2 บาท ช่วยหนุนเงินทุนแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าธุรกิจปี 2560 เติบโตอย่างก้าวกระโดด มั่นใจปีหน้าเข้าสู่การเทิร์นอะราวด์ เหตุปัจจัยบวกหนุนรอบด้าน ทั้ง มีความพร้อมเปิดขายพื้นที่นิคมทีเอฟดี 2 และรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดมิเนียม เดอะ ฮาเบอร์ หลังขายยกล็อตไปปีก่อน ตั้ง เป้ารายได้รวมปี 2560 ที่ 4,000 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องยาก

นายกัมพล ติยะรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่แบบมอบอำนาจทั่วไป(General Mandate) จำนวนไม่เกิน 385,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในอัตราส่วน 3.34 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.00 บาท โดยกำหนดระยะเวลาการจองซื้อและการชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ในระหว่างวันที่ 13 - 16 ธันวาคม 2559 และ 19 ธันวาคม 2559 ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับเงินจากจากขายหุ้น RO จำนวน770 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับเงินเข้ามาภายในช่วงปลายเดือน ธันวาคม 2559 ซึ่งก็จะทำให้บริษัทมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถชำระหนี้และลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนลงได้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งในปี 2560 ที่จะถึงนี้

โดยในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะให้เป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์ โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4,000 ล้านบาท โดยจะเป็นปีที่ภาพรวมธุรกิจเริ่มเดินหน้าตามแผนหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีหลายๆด้านชะลอ โดยเฉพาะด้านนิคมอุตสาหกรรมที่ก่อนหน้านี้อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติจากทางการ ซึ่งปัจจุบันได้รับการอนุมัติจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 บนเนื้อที่ 840 ไร่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในปี 2560 คาดว่าจะสามารถขายที่ดินได้จำนวน 200 1,530ไร่ ประเมินรายได้จากการขายไว้ที่ไร่ละ 9 ล้านบาท แต่จะรับรู้รายได้คิดเป็นเงิน 1,530 ล้านบาท ส่วนที่ดินที่เหลือจะทยอยจำหน่ายในปีถัดไป

นอกจากนี้ในปี 2560 จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดมิเนียมโครงการ เดอะ ฮาร์เบอร์ คลองเตย ที่ขายยกโครงการไปเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 ตึก รวมถึงรายได้จากการโอนโครงการ 15 สุขุมวิท เรซิเดนซ์ รวมทั้ง 2 โครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท อีกทั้งจะมีรายได้จากโรงงานให้เช่าในโครงการ กรีนพาร์ค 1-3 และโครงการที่ท่าเรือแหลมฉบัง รวม 2 โครงการ ประมาณ 350 ล้านบาท รวมถึงในปี 2560 จะมีการจัดตั้งกอง REIT ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาต ก.ล.ต. เพื่อนำสินทรัพย์ประเภทโรงงานอุตสาหกรรมของบริษัททั้งในและต่างประเทศ จำนวน 12 โรงงาน ขายเข้ากอง REIT โดยตั้งเป้าหมายกอง REIT ไว้ที่ 1,000 – 1,200 ล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ