นายวีรชัย รัตนบานชื่น ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจไก่เนื้อ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ส่งเนื้อไก่สดไปยังสาธารณรัฐเกาหลีใต้ หลังจากที่รัฐบาลเกาหลีประกาศห้ามนำเข้าไก่ไทยมากว่า 12 ปี เนื่องจากปัญหาไข้หวัดนกเมื่อปี 2547 ซึ่งการกลับมาเปิดนำเข้าใหม่ในครั้งนี้เป็นความสำเร็จจากการเจรจา 2 ฝ่าย ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ กับรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาพรวมการส่งออกไก่สดของไทยให้ขยายตัวมากขึ้น
"การที่เกาหลีใต้กลับมานำเข้าไก่สดจากไทย จะช่วยสนับสนุนภาพลักษณ์การส่งออกไก่ของไทยโดยรวมให้ขยายตัวมากขึ้น ซึ่งซีพีเอฟมั่นใจในจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ไก่สดที่มีมาตรฐานระดับโลก ทั้งเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย ที่สำคัญบริษัทยังได้รับสัญญาณที่ดีจากลูกค้าเดิมที่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของเราอยู่แล้ว ทยอยกลับมาสั่งซื้อมากขึ้น" นายวีรชัย กล่าว
นายวีรชัย กล่าวอีกว่า เกาหลีใต้เข้มงวดในด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่จะนำเข้าไปจำหน่ายแก่ผู้บริโภคชาวเกาหลี โดยที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีส่งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน The Animal and Plant Quarantine Agency (QIA) และ Ministry of Food and Drug Safety (MFDS) มาตรวจสอบมาตรฐานการผลิตผู้ส่งออกไก่ของไทยหลายครั้ง โดยเดือนกันยายนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ได้เดินทางมาตรวจโรงเชือดและโรงแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกเพื่อการส่งออกของไทย ผลการตรวจโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ของซีพีเอฟ ปรากฎว่าโรงงานทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานนครราชสีมา โรงงานสระบุรี และโรงงานมีนบุรี ได้รับการคัดเลือกเป็น 3 ใน 12 โรงงานของไทยที่ได้ส่งออกไก่สดไปยังเกาหลีใต้ โดยซีพีเอฟส่งเนื้อไก่ล็อตแรกไปแล้วในวันนี้ (14 ธันวาคม 2559) ปริมาณ 15.2 ตัน
นอกจากนี้ ไทยมีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญ อย่างบราซิล สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ทั้งในด้านระยะทางที่ใกล้กับเกาหลีใต้มากกว่า รวมถึงผลิตภัณฑ์ไก่สดของไทยเป็นเนื้อถอดกระดูกตัดแต่งชิ้นส่วนด้วยแรงงานฝีมือปราณีตตอบสนองความต้องการได้มากกว่าของบราซิลที่ส่งออกเป็นเนื้อถอดกระดูก ส่วนของสหรัฐฯเป็นเนื้อติดกระดูก
ทั้งนี้ ซีพีเอฟใส่ใจและให้ความสำคัญกับคุณภาพตลอดกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และสามารถตรวจย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอน เลี้ยงไก่ในฟาร์มระบบโรงเรือนปิด100% โดยการควบคุมการเข้าออกอย่างเข้างวด มีการฆ่าเชื้อทั้งบุคคลากรและยานพาหนะก่อนเข้าฟาร์ม ซึ่งบริษัทดำเนินการในระบบนี้มานานกว่า 20 ปี ขณะเดียวกัน ยังมีห้องปฏิบัติการสำหรับตรวจสอบวัตถุดิบทั้งก่อนและหลังกระบวนการผลิต ดังนั้นผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า สินค้าและผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟปลอดภัยต่อการบริโภค 100% อย่างแน่นอน
สำหรับการผลิตไก่ของซีพีเอฟในทุกขั้นตอนล้วนแล้วแต่ "ปลอดภัย ปลอดสาร และปลอดโรค" ดังจะเห็นได้จากการรับรองมาตรฐานสากลจากสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ GMP, HACCP, ISO9002, ISO14001, TIS18001, ISO/IEC17025, BRC และ HALAL ที่สำคัญซีพีเอฟยังเป็นบริษัทแรกนอกเขตยุโรปที่ได้รับการรับรองมาตรฐานตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) โดยได้ดำเนินการตามหลักปฏิบัติขององค์การระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (World Organization for Animal Health หรือOffice International des Epizooties หรือ OIE) ด้วยการนำระบบคอมพาร์ทเม้นท์เข้ามาใช้ในระบบการเลี้ยงอย่างเคร่งครัดเต็มรูปแบบ ตั้งแต่โรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์ม โรงฟัก (ตั้งแต่พ่อแม่พันธุ์และไก่เนื้อ) ตลอดจนถึงโรงเชือดที่ทันสมัย