นางศรัณยา กระแสเศียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความมั่นใจ และมีความพร้อมในทุกด้านสำหรับการเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ของบริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 22 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา AMA ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน หรือโรดโชว์จำนวน 4 จังหวัด ที่มีนักลงทุนสนใจฟังข้อมูลเป็นจำนวนมาก รวมถึงหลังจากการเปิดจองซื้อหุ้น IPO ของ AMA เมื่อวันที่ 8-9 และ 13-14 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา นักลงทุนทั่วประเทศก็ได้ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นเป็นจำนวนมาก ด้วยความมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีแผนในการขยายธุรกิจที่ชัดเจน ที่สำคัญตัวเลขของการเติบโตของผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าเหลวทั้งทางรถ และทางเรือ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการขนส่งน้ำมันภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความต้องการบริโภคน้ำมันปาล์มทั้งในอินเดีย จีน เมียนมาร์ และ เวียดนามที่เพิ่มสูงขึ้น
"หลังจากกระบวนการต่างๆ ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ AMA จะเป็นหุ้น IPO อีกตัวหนึ่งที่มีความน่าสนใจ จากพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และมีจุดเด่นที่โอกาสในการขยายตัวในอนาคตที่สูงตามแผนการขยายกองเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมี รวมถึงขยายกองรถบรรทุกน้ำมัน เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สนับสนุนให้ AMA มีความโดดเด่นและมีแนวโน้มในการเติบโตในอนาคต" นางศรัณยากล่าว
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ AMA กล่าวว่า ในฐานะผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายมีความเชื่อมั่นว่า AMA จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก AMA จะสามารถยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 9.99 บาทได้ เพราะจากการเสนอขายหุ้นร่วมกับผู้ร่วมจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายทั้ง 5 ราย สามารถกระจายหุ้นไปยังนักลงทุนทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ มากกว่า 4,300 ราย อย่างไรก็ตามด้วยความต้องการจองซื้อหุ้นจากนักลงทุนที่มากกว่าจำนวนที่เสนอขาย 108 ล้านหุ้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่นักลงทุนที่พลาดโอกาสไม่ได้รับการจัดสรรหุ้นในครั้งนี้ จะสามารถเข้าลงทุนหลังจาก AMA เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ วันแรกไปแล้ว
"เราเชื่อมั่นในพื้นฐาน และการเติบโตของ AMA และด้วยการกำหนดราคาที่เหมาะสม ประกอบกับความต้องการของนักลงทุนในช่วงของการจองซื้อที่ผ่านมาซึ่งมากกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขาย ทำให้คาดว่า AMA จะยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องหลังจากเข้าทำการซื้อขายแล้ว เพราะในระยะกลาง และระยะยาว AMA จะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตที่น่าสนใจ ตามแผนในการขยายธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในอนาคต" นางสาวพัชพรกล่าว
ทั้งนี้จากมุมมองนักวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ชั้นนำได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ทรินีตี้ จำกัด ให้ราคาเป้าหมายในทิศทางเดียวกันที่ 15.70 บาท, 15.20 บาท, 15.10 บาท และ 15.20 บาท ตามลำดับ ในขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ให้ราคาเป้าหมายที่ 14.16 บาท และ 13.50 บาท ตามลำดับ โดยวิเคราะห์ว่า AMA จะมีแนวโน้มของผลประกอบการปี 2560 เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 65% จากการขยายกองเรือและรถ สำหรับขนส่งสินค้าเหลว ได้แก่น้ำมันปาล์มบริโภคและน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรองรับภาวะอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มโลกและน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเติบโตต่อเนื่อง
นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA กล่าวว่า บริษัทฯดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ (Logistic) ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ และรถ ทั้งใน และต่างประเทศ โดยในธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือ บริษัทเน้นการให้บริการขนส่งสินค้าเหลว (Liquid Product) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช (Vegetable Oil Product) เป็นหลัก เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันถั่วเหลือง โดยใช้เรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมีหรือ Oil and Chemical Tanker ที่มีน้ำหนักบรรทุกได้ประมาณ 3,000 – 13,000 เมตริกตัน ซึ่งมีเส้นทางให้บริการหลักในการขนส่งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออกส่วนในธุรกิจขนส่งทางรถ บริษัทให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและB100 โดยใช้รถบรรทุกน้ำมันที่มีปริมาณบรรทุกสูงสุด 45,000 ลิตร มีเส้นทางให้บริการหลักในการขนส่งอยู่ภายในประเทศ ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2559 บริษัทมีเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมี จำนวน 8 ลำ มีน้ำหนักบรรทุกรวมทั้งสิ้น 46,661 เมตริกตัน และมีรถบรรทุกน้ำมัน จำนวน 95 คัน มีปริมาณการบรรทุกรวมทั้งสิ้น 4.28 ล้านลิตร
"เรามีความมั่นใจในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จากการทำงานร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงิน แกนนำการจัดจำหน่ายและผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น ตั้งแต่การเดินสายให้ข้อมูลจนถึงการจองซื้อที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ AMA ซึ่งหลังจากนี้จะถือเป็นหน้าที่ของผู้บริหาร และทีมงานที่จะต้องทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ธุรกิจของ AMA เติบโตได้อย่างมั่นคง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน และผู้ถือหุ้นต่อไปในอนาคต" นายพิศาลกล่าว
ทั้งนี้ผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง ในปี 2556 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 426.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20.39 ล้านบาท ในปี 2557 มีรายได้รวมเท่ากับ 510.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ85.40 ล้านบาท ในปี 2558 มีรายได้รวมเท่ากับ 643.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 130.12 ล้านบาท ในขณะที่ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรก ปี 2559 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 677.96 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 100.52 ล้านบาท