โครงการของขวัญปีใหม่ 2560 ให้แก่ประชาชน ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

พุธ ๒๑ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๒๖
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังโดยธนาคารออมสินดำเนินโครงการลดดอกเบี้ยให้ประชาชนรายย่อย เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยที่เป็นลูกค้าของธนาคารออมสินที่มีวงเงินกู้หรือหนี้ค้างชำระไม่เกินรายละ 300,000 บาท ซึ่งสรุปหลักเกณฑ์ได้ดังนี้

1. ลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดี 12 เดือนติดต่อกัน (ระหว่างเดือนธันวาคม 2559 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2560) จะได้รับคืนดอกเบี้ยร้อยละ 30 ของดอกเบี้ยที่ชำระในรอบระยะเวลา 12 เดือน โดยโอนเงินเข้าบัญชีให้กับลูกค้าหรือนำไปหักเงินต้นคงเหลือ

2. ลูกค้าที่มีหนี้ค้างชำระและลูกค้าที่ตัดหนี้สูญไปแล้ว จะปรับโครงสร้างหนี้เฉพาะในส่วนของต้นเงินกู้ และพักดอกเบี้ยผิดนัดและดอกเบี้ยปกติในช่วงเวลาที่ผิดนัด และหากลูกค้าสามารถผ่อนชำระได้ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 12 เดือน ธนาคารออมสินจะยกดอกเบี้ยผิดนัดที่พักไว้และคืนดอกเบี้ยที่ชำระในรอบระยะเวลา 12 เดือน จำนวนร้อยละ 30 เพื่อนำไปลดจำนวนดอกเบี้ยปกติที่พักไว้ โดยคาดว่าลูกค้าได้รับของขวัญจำนวน 394,929 ราย

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้ดำเนินโครงการผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจอีก 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 นี้ ซึ่งสรุปรายละเอียดโครงการต่าง ๆ ได้ดังนี้

มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย ผ่านระบบ ธ.ก.ส. ที่มีวงเงินกู้หรือหนี้ค้างชำระไม่เกินรายละ 300,000 บาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่

1. โครงการชำระดีมีคืนแก่เกษตรกรที่ไม่มีปัญหาการชำระหนี้ ธ.ก.ส. จะคืนดอกเบี้ยในส่วนที่ชำระระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 – 31 ตุลาคม 2560 ในอัตราร้อยละ 30 ของจำนวนดอกเบี้ยที่ชำระ โดยนำดอกเบี้ยที่คืนให้ลูกค้ามาลดภาระหนี้โดยตัดเงินต้นให้ลูกค้าในกรณีที่มีหนี้คงเหลือและคืนให้ลูกค้าเป็นเงินสดในกรณีที่ไม่มีหนี้คงเหลือ ทั้งนี้ คาดว่าลูกค้าจะได้รับของขวัญจำนวน 2,220,000 ราย

2. โครงการปลดเปลื้องหนี้สินให้เกษตรกรรายย่อยที่มีเหตุผิดปกติ เช่น เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง หากไม่มีหลักประกันจำนองและไม่มีทายาทรับช่วงการผลิต ธ.ก.ส. จะยกหนี้ให้ แต่หากมีหลักประกันจำนองและมีทายาทรับช่วงการผลิต ธ.ก.ส. จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากต้นเงินร้อยละ 50 ระยะเวลา 5ปี โดยพักชำระต้นเงิน 2 ปี อัตราดอกเบี้ย MRR และพักต้นเงินที่เหลือพร้อมทั้งดอกเบี้ยค้างชำระก่อนเข้าโครงการไว้ โดยเมื่อทายาทชำระหนี้ได้ตามกำหนดจะลดดอกเบี้ยที่พักไว้ให้ทั้งจำนวน ส่วนต้นเงินที่พักไว้จะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในภายหลัง ทั้งนี้ คาดว่าลูกค้าจะได้รับของขวัญจำนวน 135,000 ราย

3. โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และลดภาระหนี้สินให้เกษตรกร กรณีเป็นเกษตรกรที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และมีทายาทเข้าเป็นลูกค้าแทน ธ.ก.ส. จะรับทายาทเข้าเป็นลูกค้าแทนเกษตรกรรายเดิม และจะปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่ทายาท โดยให้ชำระต้นเงินร้อยละ 50 ภายใน 5 ปี และพักชำระต้นเงิน 2 ปี อัตราดอกเบี้ย MRR ส่วนต้นเงินที่เหลือพร้อมทั้งดอกเบี้ยค้างชำระก่อนเข้าโครงการให้พักไว้ โดยเมื่อทายาทชำระหนี้ได้ตามกำหนดจะลดดอกเบี้ยที่พักไว้จำนวนร้อยละ 80 ส่วนต้นเงินที่พักไว้จะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในภายหลัง ส่วนกรณีเกษตรกรที่มีหนี้เป็นภาระหนัก และไม่มีทายาท โดยเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ไม่น้อยกว่า 5 ปี ธ.ก.ส. จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากต้นเงินร้อยละ 50 และเมื่อชำระหนี้ได้ตามกำหนดจะลดดอกเบี้ยที่พักไว้จำนวนร้อยละ 50 ส่วนต้นเงินที่พักไว้จะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในภายหลัง ทั้งนี้ คาดว่าลูกค้าจะได้รับของขวัญจำนวน 540,000 ราย

โครงการของขวัญปีใหม่ 2560 โดย ธอส.

ธอส. จะจ่ายเงินจำนวน 1,000 บาท ให้กับผู้กู้ที่มีประวัติผ่อนชำระหนี้ดีย้อนหลัง 48 เดือนไม่เป็นหรือไม่เคยเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) และมีวงเงินกู้รวมทุกบัญชีไม่เกิน 1,000,000 บาทเพื่อส่งเสริมการมีวินัยทางการเงินในการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้น้อยของ ธอส.และเติมกำลังซื้อให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งนี้คาดว่าลูกค้าที่จะได้รับของขวัญจำนวน 178,310 ราย

นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้นมีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถือเป็นการมอบของขวัญให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ที่ใกล้จะถึงนี้

สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 02 273 9020 ต่อ 3235

โทรสาร 02 618 3374

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO