พ.ร.บ. คุ้มครองการดำเนินงาน APTERR ศูนย์กลางเพื่อการบริหารจัดการสู่เป้าหมาย

พุธ ๒๑ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๐๘
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะหน่วยประสานงานหลักของไทย ในองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม ประสบความสำเร็จในการเสนอให้รัฐบาลไทยตรากฎหมายเพื่อคุ้มครองการดำเนินงานและอำนวยความสะดวกให้แก่สำนักเลขานุการ APTERR และเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานในไทย ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม2559

นางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นความมั่นคงอาหารมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรเทาผลกระทบจากความไม่มั่นคงด้านอาหารแก่ประชาชนในยามที่เกิดภาวะวิกฤต โดยได้ร่วมกับภูมิภาคอาเซียน ริเริ่มการจัดตั้งระบบสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนตั้งแต่ปี 2545 และได้พัฒนาให้เป็นโครงการนำร่อง จนกระทั่งได้ดำเนินการจัดทำเป็น "ความตกลงการสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม" (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve (APTERR) Agreement) ซึ่งรัฐบาลไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศร่วมกับประเทศบวกสาม (สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี) ได้ร่วมลงนามในความตกลงฯ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 7ตุลาคม 2554 เพื่อจัดตั้งองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (APTERR)

การจัดตั้งองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม หรือ APTERR มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นกลไกในการจัดการระบบสำรองข้าวและระบายข้าวเมื่อเกิดความจำเป็นในกรณีเกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน สำหรับช่วยเหลือประเทศสมาชิกด้านมนุษยธรรม รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคอาเซียนบวกสาม ซึ่งต่อมาที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีเกษตรของประเทศบวกสาม ครั้งที่ 12 เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2555 ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของไทยให้จัดตั้งสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (สำนักเลขานุการ APTERR) ในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่ สศก. เพื่อให้การสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักเลขานุการ APTERRในประเทศไทย

สศก. ในฐานะหน่วยประสานงานหลักของไทยสำหรับ APTERR จึงได้ดำเนินการเสนอให้มีการตรา "พระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม พ.ศ. 2559" เพื่อคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักเลขานุการ APTERR ได้มีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย และให้เจ้าหน้าที่ซึ่งมิได้มีสัญชาติไทยได้รับเอกสิทธิ์และการอำนวยความสะดวกในการเข้ามาปฏิบัติงานในประเทศไทย โดย พ.ร.บ. ดังกล่าว ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประกาศลงใน ราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ทำให้ พ.ร.บ. ฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2559 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การที่ไทยได้ดำเนินการเพื่อออกกฎหมายสำหรับการคุ้มครองและอำนวยความสะดวกให้แก่สำนักเลขานุการ APTERR และเจ้าหน้าที่ จะช่วยสนับสนุนให้สำนักเลขานุการฯ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายการเกิดความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาคอาเซียนเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติฉุกเฉิน ให้ความช่วยเหลือรัฐสมาชิกในด้านมนุษยธรรมโดยไม่เป็นการบิดเบือนตลาดการค้าข้าวระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมบทบาทนำของไทยด้านความมั่นคงด้านอาหาร ในระดับภูมิภาคและระดับโลกอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version