ธอส. ชวนชาวไทยร่วมโครงการ “โรงเรียนการเงิน” เพื่อการออมและความพอเพียง ดำเนินรอยตามพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ศุกร์ ๒๓ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๒:๒๙
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เชิญชวนชาวไทยดำเนินรอยตามปรัชญาเศรษฐกิจด้านความพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังกับโครงการ "ธอส. โรงเรียนการเงิน" มุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับการเงินและคำปรึกษาเรื่องการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง สร้างโอกาสการเป็นเจ้าของบ้านในอนาคต

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า "ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงนำความผาสุกมาสู่พสกนิกรให้มีชีวิตอยู่อย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมถึงในด้านที่อยู่อาศัยของประชาชน ทำให้ตลอดระยะเวลา 63 ปี ธอส. ได้มุ่งมั่นทำหน้าที่ตามเจตนารมณ์สำคัญ ในการสร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองมาแล้วกว่า 3 ล้านครอบครัว ประกอบกับการที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จึงได้จัดทำ "โครงการ ธอส. โรงเรียนการเงิน" เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ สร้างวินัยการเงิน และเตรียมความพร้อมในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ โดยลูกค้าจะได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของธนาคาร เพื่อเตรียมความพร้อมด้านเอกสาร แนวทางการปฏิบัติในการขอสินเชื่อ โดยธนาคารได้แบ่งลูกค้าออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ลูกค้ามีศักยภาพทางการเงินและมีเอกสารประกอบการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เป็นผู้ที่มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการมีที่อยู่อาศัยได้ในอนาคต เนื่องจากมีเอกสารแสดงรายได้ชัดเจน แต่อาจมีรายได้สุทธิ ไม่เพียงพอต่อการซื้อบ้านในระดับราคาที่ต้องการ หรือ อาจไม่ทราบหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อ สัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) ซึ่งมีผลต่อการพิจารณาวงเงินให้สินเชื่อของธนาคาร เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ได้วงเงินสินเชื่อเพียงพอต่อการซื้อที่อยู่อาศัย

กลุ่มที่ 2 ลูกค้าที่ไม่มีความพร้อมทางด้านเอกสารการเงินและไม่มีความรู้ความเข้าใจในการเข้าสู่ระบบสถาบันการเงิน เป็นกลุ่มลูกค้าที่ประกอบอาชีพประจำหรืออาชีพอิสระ ซึ่งไม่สามารถแสดงหลักฐานแหล่งที่มาของรายได้ โดยเจ้าหน้าที่จะแนะนำให้จัดทำสมุดบัญชีรับ - จ่ายรายวัน ตามแบบฟอร์มที่ธนาคารกำหนดไม่น้อยกว่า 9 เดือน พร้อมกับเปิดบัญชีเงินฝาก และฝากเงินอย่างสม่ำเสมอเพื่อนำมาแสดงเป็นหลักฐานแสดงการมีอยู่ของรายได้ แนะนำการจัดเก็บหลักฐานเพื่อแสดงที่มาของรายได้ อาทิ ใบเสร็จรับเงิน สัญญาเช่าแผงค้าขาย เป็นต้น

กลุ่มที่ 3 ลูกค้าที่เคยติดปัญหาเครดิตบูโร ปัจจุบันไม่มีภาระหนี้ แต่ไม่มีความพร้อมด้านเอกสารประกอบการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เป็นกลุ่มที่เคยประสบปัญหาการผ่อนชำระสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ในอดีตแต่ปัจจุบันสามารถปิดบัญชียอดค้างชำระที่เคยเกิดขึ้นได้แล้ว ปัจจุบันไม่มีภาระหนี้ และควรได้รับโอกาส ในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการมีที่อยู่อาศัยได้ในอนาคตอีกครั้ง สำหรับวิธีปฏิบัติควรเปิดบัญชีเงินฝาก และต้องฝากเงินอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดตามวงเงินที่ลูกค้าจะสามารถกู้ได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน และเมื่อครบกำหนดต้องมีเงินฝากคงเหลือไม่น้อยกว่า 9 เท่าของเงินงวด

กลุ่มที่ 4 นักศึกษาจบใหม่ เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการมีที่อยู่อาศัยได้ในอนาคต หากประกอบอาชีพและมีที่มาของรายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเตรียมเอกสารประกอบการ ยื่นสินเชื่อ อาทิ เอกสารเพื่อแสดงที่มาของรายได้ สมุดบัญชีเงินฝากที่แสดงแหล่งการมีอยู่ของรายได้ เป็นต้น

"ทั้งนี้ลูกค้าที่เข้าร่วม "โครงการ ธอส. โรงเรียนการเงิน" เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด จะมีโอกาสยื่นคำขอพิจารณาสินเชื่อกับธนาคาร ซึ่งธนาคารจะพิจารณาผ่อนปรนสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) เพิ่มเป็นสูงสุดไม่เกิน 50% ของรายได้สุทธิ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี โดยคาดว่า จะมีจำนวนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ ไม่น้อยกว่า 7,000 ราย และยังเป็นการสร้างวินัยการออมและน้อมนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสุขอย่างยั่งยืนอีกด้วย" นายฉัตรชัย กล่าวสรุปในตอนท้าย

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ