นายวุฒิกร มโนมัยวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แท็กซี่-บีม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท แท็กซี่-บีม เป็นบริษัทลูกของบริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบ Enterprise Location Based Application และเคยคว้ารางวัลด้านการประกวดซอฟท์แวร์มาแล้วจากหลายสถาบันล่าสุดบริษัท แท็กซี่-บีม เตรียมเปิดตัวแอพพลิเคชั่นสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ใหม่ล่าสุด ชื่อ Taxi-Beamพัฒนาขึ้นโดยฝีมือนักพัฒนาคนไทย มีจุดเด่นที่การใช้งานง่ายและเป็นภาษาไทยทั้งหมด คาดว่าจะพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ที่จะถึงนี้ วัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาคนขับแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่
"บริษัทฯใช้เวลาในการออกแบบและพัฒนาระบบประมาณ 1 ปี หลักการในการออกแบบแอพพลิเคชั่นนี้ นอกจากจะทำให้ผู้โดยสารเรียกใช้บริการแท็กซี่ได้สะดวกแล้ว ยังทำให้คนขับแท็กซี่สามารถเห็นตำแหน่งของผู้โดยสารที่จะเรียกแท็กซี่ด้วยว่าอยู่บริเวณใด และมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหน เพื่อช่วยให้คนขับแท็กซี่เลือกรับผู้โดยสารที่จะไปทางที่สามารถไปส่งได้ เช่น ไปทางเดียวกับทางไปส่งรถ หรือต้องไปเติมแก๊ส เป็นต้น ส่วนในฝั่งของผู้โดยสาร สามารถเลือกเรียกแท็กซี่ผ่านแอพฯตามปกติ หรือโทรติดต่อคนขับที่อยู่ในบริเวณนั้นได้โดยตรง เพียงกดที่รูปไอคอนแท็กซี่ และกดโทรเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอ บริการนี้จึงเพิ่มความมั่นใจให้ผู้โดยสารได้ว่า ในกรณีฉุกเฉินก็สามารถโทรติดต่อคนขับแท็กซี่ได้แน่นอน ซึ่งเป็นจุดเด่นของแอพฯ Taxi-Beam ที่แตกต่างจากแอพฯอื่นๆ และในอนาคตเตรียมพัฒนาต่อยอดการให้บริการเพิ่มในส่วนของรถโดยสารประเภทอื่นๆ เช่น รถลีมูซีน รถมินิแวน และรถตู้ เป็นต้น"
สำหรับอัตราค่าโดยสาร ผู้โดยสารจ่ายตามจริงขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ให้บริการแต่ละจังหวัดและจ่ายเพิ่มอีก20 บาทเป็นค่าบริการ โดยจ่ายให้กับคนขับแท็กซี่โดยตรงส่วนคนขับแท็กซี่จ่ายค่าบริการเพียง 20 บาทต่อ 1 รอบการใช้งาน 15 ชั่วโมงซึ่งค่าบริการใช้แอพพลิเคชั่นจากฝั่งคนขับแท็กซี่เป็นรายได้ที่บริษัทฯ จะได้รับ ซึ่งนอกจากรายได้ส่วนนี้แล้ว บริษัทยังมีแผนหารายได้จากค่าโฆษณาของธุรกิจต่างๆ โดยในอนาคตแอพฯ Taxi-Beam ฝั่งผู้โดยสารจะสามารถแสดงส่วนลด โปรโมชั่น หรือโฆษณาสินค้าและบริการของธุรกิจและร้านค้าที่รถแท็กซี่วิ่งผ่าน หรือบริเวณรอบๆจุดปลายทางของผู้โดยสารได้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่า รายได้จากค่าโฆษณาจะเป็นรายได้หลักของบริษัทฯในอนาคต
นายวุฒิกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้แอพฯ Taxi-Beam เปิดให้บริการแล้วในจังหวัดอุบลราชธานีและขอนแก่น ส่วนในกรุงเทพฯ เพิ่งเริ่มทดลองใช้งานเดือนธันวาคม 2559 ดังนั้นจึงยังมีจำนวนรถแท็กซี่ให้บริการไม่มากนัก รวมแล้วทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ประมาณ 800 คัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว บริษัทฯตั้งเป้าว่า ภายในปี 2560 จะมีจำนวนรถแท็กซี่ให้บริการในกรุงเทพฯ มากกว่า 5,000 คัน และในต่างจังหวัดไม่น้อยกว่า 500 คัน โดยบริษัทฯ เตรียมอัดงบส่งเสริมการตลาดประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์และกระตุ้นการใช้บริการ
"บริษัทฯ มีแผนจะจัดทำระบบ Pass ซึ่งเปรียบเสมือนแท็กซี่-บีม ดิจิตอล การ์ด (Taxi-Beam Digital Card) เพื่อแจกให้กับผู้โดยสารทุกคนที่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้ เพื่อสะสมแต้มเมื่อใช้บริการ Taxi-Beam สำหรับนำมาแลกสิทธิประโยชน์และส่วนลดต่างๆ มากมาย ในส่วนของคนขับแท็กซี่ ก็จะมีกิจกรรมสะสมแต้มจากการรับส่งผู้โดยสารและแนะนำเพื่อนคนขับ เพื่อแลกรับรางวัลต่างๆ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการ Taxi-Beam อย่างต่อเนื่อง"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แท็กซี่-บีมฯ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ เป็นพันธมิตรกับศูนย์แท็กซี่ต่างๆ จำนวนมาก ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถขยายจำนวนรถแท็กซี่ได้อย่างรวดเร็ว และยังสร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสารในด้านความปลอดภัยอีกด้วย เนื่องจากทางศูนย์แท็กซี่ก็จะช่วยคัดกรองและตรวจสอบคนขับให้อีกทางหนึ่ง ขณะที่ในส่วนคนขับแท็กซี่อิสระที่ต้องการเข้าร่วมให้บริการกับ Taxi-Beam ทางบริษัทฯก็จะมีการตรวจสอบหลักฐานการสมัครต่างๆ ก่อนจึงจะอนุมัติให้เข้าร่วมใช้ระบบฯ. สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.taxi-beam.com