คาดการณ์แนวโน้มไอที ปี 2017 สิ่งที่มาแรงแซงโค้งคือ เวิร์กสเตชั่นเพื่องาน สร้างสรรค์ บุคลากรด้าน IoT และอนาคตที่ทุกสิ่งซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง

พุธ ๒๘ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๒๗
โดย อโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ เดลล์ อีเอ็มซี (ประเทศไทย) และรองประธานบริหารภูมิภาคอินโดจีน

หากคุณสามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ คุณจะทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมหรือไม่? เมื่อเราตั้งคำถามนี้กับกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค 70 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าการแข่งขันจากกลุ่มดิจิทัล สตาร์ทอัพ กำลังสร้างแรงจูงใจให้องค์กรธุรกิจหันมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไอที รวมถึงความเป็นผู้นำด้านทักษะทางดิจิทัล

ด้วยความเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังมา จึงทำให้ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเป็นช่วงแห่งความปั่นป่วน ที่ทำให้ทุกอุตสาหกรรม ทุกภาคส่วน และทุกธุรกิจหันมาเปลี่ยนแปลงองค์กรตัวเองกันถ้วนหน้า และคาดว่าจะได้เห็นการปฏิรูปตามมาอีกมากมาย บริษัทที่ก่อตั้งมาอย่างมั่นคงกำลังถูกบรรดาดิจิทัล สตาร์ทอัพทั่วโลก คิดค้นนวัตกรรมที่ดียิ่งขึ้นไปอีก และแซงหน้าไปบริษัทเหล่านี้ไป กว่าครึ่งขององค์กรธุรกิจที่เราได้ทำการสำรวจ ไม่แน่ใจแม้กระทั่งว่าองค์กรของเขาเองจะสามารถอยู่รอดภายใน 3-5 ปีข้างหน้าได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางการปฏิรูปก็คือโอกาส และยังเป็นโอกาสอันมหาศาล สิ่งที่จะกล่าวต่อไปก็คือ แนวโน้มสำคัญ 7 ประการสำหรับปี 2017 ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าแนวโน้มบางอย่างจะเข้ามาเปลี่ยนวิถีการทำธุรกิจ ตั้งแต่ปลายทาง ไปยังศูนย์กลางสำคัญ จนถึงบนคลาวด์

การคาดการณ์ที่ 1 การสร้างสรรค์โลกจินตนาการที่เสมือนจริง (Immersive) ราวกับเกิดขึ้นจริง จะกลายเป็นกระแสหลัก

ปี 2017 จะส่งสัญญาณให้รู้ว่าทุกคนสามารถเข้าถึงความสร้างสรรค์ที่มุมมองที่เสมือนจริงได้และอีกเพียงไม่นานเกินรอ ในที่สุดแล้ว ผู้สรรค์สร้างก็จะสามารถเข้าถึงขุมพลังที่ทำให้งานสร้างสรรค์เป็นได้ดังจินตนาการนำเทคโนโลยีที่ให้พลานุภาพระดับสูงมาเชื่อมโยงโลกจินตนาการ และโลกความเป็นจริง ซึ่งประชาชนในวงกว้างก็จะได้ใช้เทคโนโลยีที่ว่าในที่สุด

ผู้รับเหมาและสถาปนิกจะเดินไปยังไซต์งานของโครงการ และใช้อุปกรณ์ของตัวเองในการดูโมเดลของอาคารได้อย่างเต็มรูปแบบบนพื้นที่จริงก่อนที่เริ่มต้นการก่อสร้างใดๆ ทั้งนี้โครงสร้างพื้นฐานที่เรียบง่าย มีประสิทธิภาพ และให้สมรรถนะสูงจะกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเพื่อทำให้มองเห็นภาพของงานที่สร้างสรรค์ขึ้นได้ชัดเจน

การคาดการณ์ที่ 2 การมองโลกได้เหนือธรรมชาติที่เป็นจริง

ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คาดว่าเทคโนโลยี VR/AR จะก้าวสู่จุดพลิกผัน สอดคล้องตามข้อมูลจาก IDC ที่ว่า 30 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรทั่วเอเชียที่ต้องติดต่อกับผู้บริโภคจะนำ AR/VR มาทดลองใช้เป็นส่วนหนึ่งในงานด้านการตลาดในปี 2017

อุปกรณ์แฮนด์-ฟรี จะนำพาผู้คนก้าวสู่โลกคู่ขนาน ซึ่งข้อจำกัดเดียวที่มีก็คือจินตนาการ คนเหล่านี้จะเรียนรู้ทักษะใหม่ ให้บริการและสานสัมพันธ์กับผู้คนโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับสื่อที่จับต้องได้

ในประเทศฟิลิปปินส์ ZipMatch ให้บริการเวอร์ชวลเรียลริตี้แบบ 360 องศา ช่วยให้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ นำเสนออสังหาให้กับผู้ซื้อที่มีศักยภาพ ในรูปแบบที่ให้ประสบการณ์และความน่าสนใจได้มากยิ่งขึ้นไปอีก โดยไม่จำเป็นต้องไปดูของจริง ซึ่งประเทศสิงคโปร์กำลังกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญอย่างรวดเร็ว ในการสร้างเนื้อหา VR เช่นบริษัท TaKanto, Hiverlab และ VizioFly

Pokemon Go อาจจะมีผู้เล่นเพิ่มราว 700,000 ต่อวัน แต่ด้วยความพร้อมของ AR และ VR จะทำให้เกมกลายเป็นสิ่งที่มากกว่าแค่การเล่นเกม

การคาดการณ์ที่ 3: รักษาความปลอดภัยของ HVAC

คุณเคยได้ยินช่างซ่อมรถบอกว่ารถของคุณต้องอัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่ไม่อย่างนั้นจะมีโหว่ให้แฮกได้หรือไม่ คุณเข้าใจคำถามไม่ผิดหรอก เพราะในยุคของการเชื่อมต่อกันทั่วโลก อะไรก็ตามที่มี IP แอดเดรส สามารถโดนแฮกได้หมด

คาดว่าการโจมตีรอบนอกเครือข่ายจะขยายตัวมากขึ้นในปีนี้ และจะรุกล้ำไปสู่พื้นที่ธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือระบบเครือข่ายไอที เข้าใจได้ว่าไม่ใช่เพียงข้อมูลของคุณเท่านั้นที่ต้องการการคุ้มครอง แต่ส่วนอื่นๆ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน HVAC (ระบบควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม) กำลังกลายเป็นการตื่นตัวครั้งสำคัญสำหรับองค์กรธุรกิจที่มุ่งไปข้างหน้า ที่จริงแล้ว กลุ่ม "ไซเบอร์ ไฟว์" ของเอเชียแปซิฟิค ที่ประกอบด้วย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น ดูจะมีความเสี่ยงต่อการโดนโจมตีบนโลกไซเบอร์มากกว่าประเทศเศรษฐกิจอื่นๆ ในอาเซียนถึง 9 เท่า อ้างอิงตามข้อมูลจากภาพรวมเกี่ยวกับการป้องกันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2016 ของ Deloitte (Deloitte's 2016 Asia-Pacific Defense Outlook)

การคาดการณ์ที่ 4: 5K และอื่นๆ อีก...

ยุคนี้เป็นยุคที่คนจะพอใจต่อเมื่อได้สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น ทำไมเป็นเช่นนั้น? นั่นก็เพราะเราเคยชินกับการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วในระดับ 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ดังนั้นทีมวิจัยและพัฒนาทั้งหลายต่างทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำกันอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อสร้างความประหลาดใจและความพึงใจให้กับลูกค้า และเมื่อมีคนคิดถึงว่าความละเอียดที่ระดับ 5K กำลังจะเข้ามาแทนที่ 4K ในฐานะของมาตรฐานถัดไปของอุตสาหกรรม จึงทำให้ข่าวลือเรื่องจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่มาพร้อมความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเริ่มแพร่กระจาย

ในปี 2017 ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตอย่างมีสีสันของผู้คนก็จะถูกยกระดับขึ้นไปไกลกว่านั้นอีก ถึงขนาดที่อาจทำให้โลกแห่งความเป็นจริงดูหม่นไปได้หากนำมาเปรียบเทียบกัน

การคาดการณ์ที่ 5: จะมีตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่าย IoT เกิดขึ้น

ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารในธุรกิจจะเกิดขึ้นเต็มไปหมดทุกที่ ซึ่งตำแหน่งประธานเจ้าที่บริหารฝ่ายดิจิทัลเคยเกิดขึ้นมาแล้วช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้ เด็กรุ่นใหม่กำลังก้าวสู่การเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่าย IoT

หากถามถึงเหตุผลที่เราจำเป็นต้องมีคนกลุ่มนี้ นั่นก็เพราะบริษัทต่างๆ กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่ก่อตัวขึ้นเพื่อให้ปิดช่องว่างระหว่างการดำเนินงานส่วนปฏิบัติการและไอทีให้ได้ จากข้อเท็จจริงก็คือ ผลวิจัยจากไอดีซีระบุว่าภายในปี 2020 หนึ่งในสี่ของผู้บริหารธุรกิจระดับสูง (C-Level) ในบริษัทอาเซียนจะทำงานในสายงานของบทบาทการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างน้อย 3 ปี

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IoT จะเป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับทุกคนในทุกหน่วยงาน ตั้งแต่ระดับผู้จัดการโรงงาน ไปจนถึง CIO และ CEO เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน

คนเหล่านี้จะเป็นตัวแทนการเปลี่ยนแปลง ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการผลักดันองค์กรให้ก้าวไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นโลกที่ท่วงทำนองของชีวิตจะดำเนินไปพร้อมกับ อุปกรณ์ต่อเชื่อมเครือข่ายเกือบ 9,000 ล้านชิ้น ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคภายในปี 2020

การคาดการณ์ที่ 6: กันไว้ดีกว่าแก้

ไม่ว่าหมอคนไหนก็คงบอกเหมือนกันว่าการป้องกันคือวิธีการรักษาที่ดีที่สุด และในปัจจุบัน ด้วยระบบที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง (machine learning) เราจึงสามารถระบุได้ว่าเมื่อไหร่ที่เทคโนโลยีชิ้นใดจะเกิดการชำรุดก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีการซ่อมแซมตัวเอง (self-healing technology) บริษัทจึงสามารถจัดผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเพื่อดูแลโครงการไอทีเชิงกลยุทธ์ได้ แทนที่จะเสียเวลาไปกับงานบริการซ่อมแซม ซึ่งแพลตฟอร์มด้านการวิเคราะห์บนคลาวด์จะให้ความฉลาดและความสามารถด้านการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ได้ในแบบเรียลไทม์ เพื่อดูแล ตรวจสอบ พร้อมบริหารจัดการในเชิงรุก และช่วยให้อุปกรณ์อยู่ในสภาพการใช้งานที่ดีตลอดเวลา

ไอดีซีทำนายว่าภายในปี 2020 เกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ของกระบวนการในการงานส่วนปฏิบัติการจะเป็นระบบซ่อมแซมตัวเอง (self-healing) และเรียนรู้ด้วยตัวเอง (self-learning)

การคาดการณ์ที่ 7: ระบบคอมพิวเตอร์ และลูกแก้วพยากรณ์

การที่บริษัทและคนทั่วไปต่างดิ้นรนเพื่อที่จะจัดการกับปริมาณข้อมูลมหาศาลที่อยู่บนออนไลน์ในตอนนี้ จะไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับอีกต่อไป เพียงแต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะอีกไม่นานนี้ข้อมูลขนาดมหาศาลจะช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงสิ่งต่างๆ ในรูปแ บบใหม่ได้ ในความเป็นจริง การจิจัยของ Ovum ชี้ว่าระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจะกลายเป็นตัวแปรที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) ในอนาคตที่กำลังจะมาถึงนี้

จะมีการฝังความสามารถด้านการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ไว้ในซอฟต์แวร์ระดับเอนเตอร์ไพรซ์ หรือเครื่องมือที่ใช้สำหรับผสานและจัดเตรียมข้อมูล เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถคาดการณ์ พร้อมประสานงานเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาได้

ตัวอย่างหนึ่งก็คือ การที่ MIT กำลังพัฒนาสิ่งสุดยอดเกี่ยวกับการคาดเดาพฤติกรรมมนุษย์ นักวิจัยจากสถาบัน MIT เชื่อว่าการตระหนักรู้ของระบบคอมพิวเตอร์ จะเป็นสิ่งที่ปฏิวัติแวดวงอุตสาหกรรมทำให้ดึงข้อมูลเชิงลึกออกจากข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากได้ อาทิ คอมพิวเตอร์วิทัศน์ (Computer Vision) ซึ่งสามารถเข้าใจภาพที่รับเข้ามา และอาจจะให้ความสามารถในการนำเสนอแนวทางในการคัดกรองคนเพื่อดูแลเรื่องการรักษาทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้นได้

ไม่ช้าก็เร็ว ระบบคอมพิวเตอร์ก็จะเริ่มประยุกต์การเรียนรู้ทั้งในส่วนการทำงานของตัวเองและเรียนรู้สิ่งที่เป็นทัศนภาวะ คือการรับความรู้สึกจากสิ่งเร้าได้ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ได้จากเนื้อหาที่เป็นตัวหนังสือ หรือโลกเสมือนก็ตาม

เหล่านี้คือความน่าตื่นเต้น! บางทีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผมอาจจะให้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นคนเขียนเล่าถึงการคาดการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อๆ ไปก็เป็นได้!

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version