อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จากจำนวน 1,162,751,814 บาท เป็น 1,152,622,701 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังไม่ได้จำหน่ายจำนวน 10,129,113 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท (ยกเว้นหุ้นสามัญที่สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (NPP-W2) ที่ยังคงเหลืออยู่จำนวน 159,931,891 หุ้น และเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิเพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จากจำนวน 1,152,622,701 บาท เป็น 1,648,968,105 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 496,345,404 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท และเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน
อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 248,172,702 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Rights Offering) รายชื่อผู้ถือหุ้นที่ปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 9 มกราคม 2560 จะเป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ (Record Date) และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 มกราคม 2560 โดยมีรายละเอียดการจัดสรรคือ เสนอขายในอัตราส่วนการจองซื้อ 4 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน กรณีมีเศษหุ้นให้ปัดทิ้ง และกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ราคา 1.10 บาทต่อหุ้น
ในการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นนั้น ผู้ถือหุ้นเดิมมีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิของตนตามอัตราที่กำหนดไว้ข้างต้นได้ (Oversubscription) เมื่อมีหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้จองซื้อตามสิทธิครบถ้วนทั้งหมดแล้วเท่านั้น
ในกรณีที่มีผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิของตนเป็นจำนวนมากกว่าหุ้นส่วนที่เหลือจากการจัดสรรตามสิทธิ ให้จัดสรรหุ้นส่วนที่เหลือนั้นตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละราย ซึ่งการจัดสรรหุ้นดังกล่าวให้ดำเนินไปจนกระทั่งไม่มีหุ้นเหลือจากการจัดสรร ทั้งนี้บริษัทจะคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญสำหรับส่วนที่ไม่ได้รับการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยไม่มีดอกเบี้ยภายใน 14 วันนับจากวันปิดรับจองซื้อหุ้น
ทั้งนี้หากยังมีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ (Excess Rights) บริษัทจะดำเนินการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท โดยการตัดหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ไม่ได้จำหน่ายออก
ขณะที่การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิข้างต้นไม่ว่ากรณีใดจะต้องไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิรายใดถือหุ้นของบริษัทในลักษณะที่เพิ่มขึ้นจนถึงหรือข้ามผ่านจุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) กำหนดวันจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 8-15 กุมภาพันธ์ 2560 (เฉพาะวันทำการ)
จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 248,172,702 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (NPP-W3) ซึ่งออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในกรณีที่มีหุ้นเหลือเนื่องจากไม่มีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ บริษัทจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติมอบหมายให้คณะกรรมการบริษัทหรือบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการบริษัท มีอำนาจในการดำเนินการใด ๆ อันจำเป็นและเกี่ยวเนื่องกับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวได้ทุกประการ
อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (NPP-W3) จำนวนไม่เกิน 248,172,702 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
อนุมัติการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 ในวันที่ 9 มกราคม 2560 (Record Date) และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 10 มกราคม 2560 รวมทั้งมีมติอนุมัติการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนควบใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (NPP-W3) ในวันที่ 9 มกราคม 2560 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 10 มกราคม 2560
ทั้งนี้ได้อนุมัติให้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เพื่อเสนอวาระดังกล่าวทั้งหมดข้างต้นให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 14.00 น. ณ อาคารคอลัมน์ทาวน์เวอร์ ห้องคอลัมน์ 1 ชั้น 2 ซอยสุขุมวิท 16 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
อนุมัติแต่งตั้งนายพงศ์ศักดิ์ เอี่ยมศิรินพกุล เป็นกรรมการแทนนายปฏิญญา เทวอักษร ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งนางสาววชิราภรณ์ อัจนปัญญา เป็นกรรมการ แทนนายพิร ชมภูศรี ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่งโดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 26 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป
โดยธุรกิจปัจจุบันของ NPP แบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจคือ
1.Packaging Business
- Nippon Pack (Thailand) Public Co., Ltd. (100%)
ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทอ่อนตัวและขวดPET
- Promptpack Co., Ltd. (95%)
ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกถาดบรรจุอาหารและถาดบรรจุอาหารพร้อมทาน
- Thai Flexible Pack Co., Ltd (55%)
ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ให้กับกลุ่มผู้ผลิตอาหาร ผู้ผลิตเครื่องสำอางค์ ผู้ผลิตยา และผู้ผลิตของใช้ประจำวัน อาทิเช่น อาหารสด อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป และอาหารกึ่งสำเร็จรูป
2.Food and Beverage Business
- NPP Food Incorporations Co., Ltd. (100%)
NPPF บริหารธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ร้าน A&W และ Miyabi ร้านอาหารปิ้งย่าง
- Mr.Jones International Co.,Ltd. (MJO)
ดำเนินธุรกิจด้านเบเกอรี่ และเครื่องดื่ม แบรนด์ มิสเตอร์โจนส์ออร์แฟเนจ
- Nippon Food Products Co., Ltd. (ถือหุ้น 100%) (Thai Luxe Food- TLF)
ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปแช่แข็งและผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน
3.Community Mall Business
- The Brio Mall Co.,Ltd. (55%)
ธุรกิจศูนย์การค้า ภายใต้ชื่อ The Brio Mall ดำเนินการให้เช่าพื้นที่การค้า
4.Advertising Media Business
- Nippon Pack Trading Co., Ltd. (51%)
ดำเนินธุรกิจติดตั้งสื่อโฆษณา ในสถานีบริการปั้มน้ำมัน ปตท. ภายในร้านค้าปลีก จิฟฟี่
ปัจจุบันธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ถือเป็นธุรกิจโดดเด่นของบริษัทฯ โดยพบว่า 9 เดือนที่ผ่านมายอดขายจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์อยู่ที่ 265.59 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นเป็นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีมูลค่า 159.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 66.80%