นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารให้การสนับสนุนโครงการระบบการชำระเงินของประเทศ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ National e-Payment อย่างเต็มที่ โดยได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะในส่วนของกรุงไทย พร้อมเพย์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้สะดวก ง่าย และมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล โดยตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2560 เป็นต้นไป ธนาคารกรุงไทยในฐานะผู้รับจัดการในการส่งเงินคืนภาษีจากกรมสรรพากร จะเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีผู้เสียภาษีรายที่ได้รับเงินคืนภาษีแก่ประชาชนที่ลงทะเบียนกรุงไทยพร้อมเพย์ และบริการพร้อมเพย์ของธนาคารอื่น ที่ผูกบัญชีด้วยหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งกรมสรรพากรเปิดให้บุคคลธรรมดายื่นแสดงรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2559 เพื่อชำระภาษีระหว่างวันที่ 1 มกราคม -31 มีนาคม 2560
"ธนาคารกรุงไทยมีความพร้อมในการให้บริการโอนเงินสวัสดิการของรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มโอนเงินเบี้ยผู้สูงอายุและคนพิการ รวมทั้งโอนเงินระหว่างบุคคล และโอนเงินระหว่างธนาคาร ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ดังนั้น เพื่อความรวดเร็วในการรับเงินสวัสดิการจากรัฐ ขอเชิญชวนลูกค้าและประชาชน เปิดบัญชีเงินฝากและลงทะเบียนกรุงไทยพร้อมเพย์ โดยธนาคารช่วยแบ่งเบาภาระผู้มีรายได้น้อย สามารถเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารได้ โดยไม่ต้องมีเงินฝาก"
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนกรุงไทยพร้อมเพย์ ผ่าน 3 ช่องทางของธนาคาร ได้แก่ ตู้ ATM บริการ KTB netbank และสาขาแล้วกว่า 2.2 ล้านราย โดยธนาคารได้โอนเงินให้แก่ผู้ที่มีรายได้น้อยที่เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการค่าสวัสดิการเด็กแรกเกิด ผ่านกรุงไทยพร้อมเพย์ ไปแล้วกว่า 3 แสนราย