'MPPM นิด้า’ ฟันธงปีหน้าเศรษฐกิจไทยสดใส คาดเติบโต 3.5-4.0% รับรัฐอัดฉีดลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่งออกหนุน เอกชนเชื่อมั่น

ศุกร์ ๓๐ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๓:๕๐
ผู้อำนวยการหลักสูตร MPPM นิด้า มองเศรษฐกิจไทยปี 60 สดใส เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.5-4.0% รับภาครัฐอัดฉีดลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน-เร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ดันเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นเคลื่อนไหวในกรอบ 1.5-2.0% และส่งออกจะขยายตัวได้ 1-2% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีลุ้นได้เห็นดัชนี 1,600-1,650 จุด

รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโทการจัดการภาครัฐและเอกชน (MPPM) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2560 ประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 3.5-4.0% จากนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐทั้งการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 ที่มีงบลงทุนคงเหลือกว่า 33.6% หรือประมาณ 141,730 ล้านบาทและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2560 ที่ขณะนี้มีการเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 26.3% โดยในส่วนนี้เป็นการเบิกจ่ายงบลงทุนเพียง 6.4% เท่านั้น อย่างไรก็ตามด้วยนโยบายภาครัฐที่เร่งอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ มีหลายโครงการที่จะเห็นเป็นรูปธรรมในปี2560 จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้และส่งผลต่อรายได้ของประชาชนเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน การเร่งรัดเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันโดยสนับสนุนการพัฒนายกระดับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีให้กับภาคการผลิตและแสวงหาตลาดใหม่ให้กับภาคการส่งออก ผ่านการเจรจาความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการค้าอย่างต่อเนื่อง จะช่วยสนับสนุนต่อปัจจัยเชิงบวกของเศรษฐกิจไทย เนื่องจากคู่ค้าของไทยในปี 2560 มีทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และจะผลักดันอัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1.5-2.0%

"ปี 60 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยมีการลงทุนภาครัฐเป็นพระเอกที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายโครงการที่มีความชัดเจนและพร้อมเดินหน้าก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนตัดสินใจขยายการลงทุนเพิ่มเติม" รศ.ดร.มนตรี กล่าว

ผู้อำนวยการหลักสูตร MPPM กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2560 เชื่อว่ายังขยายตัวได้ 1-2% โดยมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียนที่มีสัดส่วนการส่งออกสูงถึง 25.3% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการสนับสนุนการลงทุนของภาครัฐและเอกชนของแต่ละประเทศในอาเซียน จึงคาดว่าในปี 2560 จะเติบโตได้ 4.6% จากปี 2559 ที่ประเมินว่าเติบโต 4.5%

ส่วนตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญที่มีสัดส่วนส่งออกกว่า 11.4% มีแนวโน้มขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นบวกและส่งสัญญาณการเติบโตที่สดใส หลังจากได้ประธานาธิบดีคนใหม่เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง เช่น การปฏิรูปภาษีด้วยการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา มุ่งแก้ปัญหาการว่างงานและกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้นรวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จึงคาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปี 2560 จะขยายตัว 2.-2.3% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าของไทยไปยังตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น

ขณะที่ตลาดจีน ซึ่งประเทศไทยมีสัดส่วนส่งออก 10.6% นั้น มีแนวโน้มชะลอตัวเนื่องจากการลงทุนของภาคเอกชนที่ลดลง จึงคาดว่าเศรษฐกิจของจีนในปี 2560 จะมีการเติบโตลดลงเหลือ 6.5% จากปี 2559 ที่คาดว่าจะเติบโต 6.7% ดังนั้นเศรษฐกิจโลกจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจจีน เนื่องจากจีนมีการส่งออกสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก หากเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี การส่งออกสินค้าจากไทยไปยังประเทศจีนก็ย่อมดีตามไปด้วย

"หากประเมินสภาวการณ์ส่งออกของไทยในปี 2560 เชื่อว่ายังเติบโตได้ 1-2% เนื่องจากประเทศคู่ค้ารายใหญ่ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ประกอบกับเศรษฐกิจปีหน้าในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วยังขยายต่อเนื่องในระดับ 1.9-2.0% ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนา คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.9-5.0% จากปี 59 คาดว่าอยู่ที่ 4.0-4.3% ส่วนประเทศกลุ่ม BRICS ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้ คาดว่าเติบโต 5.1% จากปี 2559 ที่น่าจะขยายตัวได้ 4.2% เมื่อมารวมกับปัจจัยสนับสนุนของค่าเงินบาทที่เฉลี่ยเคลื่อนไหวอยู่ที่ 35-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จะเอื้อต่อการสนับสนุนการส่งออกของไทยสามารถผลักดันการเติบโตได้ดียิ่งขึ้น" รศ.ดร.มนตรี กล่าวและว่า

จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น จะช่วยสนับสนุนความแข็งแกร่งของภาคตลาดเงินตลาดทุนไทยในปี 2560 ที่ดาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 1,600-1,650 จุด และอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวที่ร้อยละ 1.50 ซึ่งจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2560เติบโตได้ 3.5-4.0% ตามที่ประเมินไว้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version