สืบเนื่องจากที่ บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท TPIL จำนวน 2 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ มูลค่ารวม 2 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 72.30 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2559 : 1 ดอลล่าร์สหรัฐ เท่ากับ 36.15 บาท) รวมทั้งให้เงินกู้ยืมระยะยาวแก่ TPIL ประมาณ 136.64 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในธุรกิจกีฬาผ่านบริษัทร่วม ได้แก่ บริษัท สปอร์ต อีเว้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ SEI และ บริษัท โกลเบิล ลีเจินส์ เซอร์รี่ ลิมิเต็ด จำกัด หรือ GLS หากแต่การลงทุนในหุ้นดังกล่าว ส่งผลต่องบการเงินของบริษัทฯ เนื่องจากผู้สอบบัญชีได้แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขมาโดยตลอด จากการที่ผลประกอบการที่เกิดขึ้นจริงของ GLS และ SEI เมื่อเปรียบเทียบกับประมาณการแล้วมีความแตกต่างกัน จนเกิดการด้อยค่าเงินลงทุนทั้งจำนวน และตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสำหรับเงินให้กู้ยืมระยะยาวและดอกเบี้ยค้างรับทั้งจำนวน และเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งให้บริษัทฯ ต้องถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กล่าวโทษและเปรียบเทียบปรับเรื่อยมา
ส่วนประโยชน์ที่บริษัทฯ จะได้รับในการขาย TPIL ครั้งนี้คือ การลดภาระค่าใช้จ่ายที่บริษัทฯ จะต้องจ่ายค่าจัดทำบัญชีและค่าสอบบัญชีแทนให้แก่ GLS และ SEI และเพื่อให้การจัดทำงบการเงินรวมของบริษัทเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการจัดทำงบการเงินรวมของบริษัทฯ ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวมีการตั้งด้อยค่าไปหมดแล้ว บริษัทฯ จะสามารถรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนจำนวนนี้ได้