รศ.ดร. อิทธิชัย อรุณแสงศรีไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน ) หรือ MAX กล่าวว่า บริษัทได้เปลี่ยนแปลงวิธีการเพิ่มทุนจากเดิมจัดสรรให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง ( PP ) มาเป็นการให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิม ( Rights Offering ) สัดส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 5 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.05 บาท ซึ่งเป็นราคาเท่ากับมูลค่าหุ้นทางบัญชี ( Book Value ) เนื่องจาก บริษัทต้องการให้สิทธิกับผู้ถือหุ้นเดิม กรณีที่มีหุ้นเหลือจากการใช้สิทธิ หรือผู้ถือหุ้นไม่ใช่สิทธิ จะพิจารณาจัดสรร PP ต่อไป
สำหรับการเรียกชำระเพิ่มทุนครั้งนี้ ถือเป็นการเรียกเพิ่มทุนครั้งแรก นับจากปี 2557 ซึ่งครั้งสุดท้ายเป็นการเพิ่มทุน PP ให้กับกลุ่ม นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ราคาหุ้นละ 0.05 บาท กระทั่งต้นปี 2560 จึงมีการเรียกเพิ่มทุนในครั้งนี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ มีเป้าหมายนำเงินเพิ่มทุนไปลงทุนเน้นการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ขนาด 240 เมกกะวัตต์ , โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 3.87 เมกกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าจากขยะ ขนาด 9.9 เมกกะวัตต์ โดยธุรกิจพลังงานที่ลงทุนเป็นการซื้อและร่วมทุนที่มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า ( COD ) เข้ามาทันที ซึ่งในปีนี้จะเริ่มมีรายได้จากโรงไฟฟ้าขยะแพรกสา ขนาด 9.9 เมกกะวัตต์ อนาคตโครงสร้างรายได้ MAX จะมาจากธุรกิจพลังงานเป็นหลัก
สำหรับการลงทุนในบริษัท PTTC สัดส่วน 21.5 % มูลค่าการลงทุน 454.128 ล้านบาท วางมัดจำแล้ว 100 ล้านบาท คาดส่งมอบหุ้นครบถ้วนทั้งหมด ภายในไตรมาส 1/2560 ปัจจุบัน PTTC เป็นบริษัทผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบ Cogeneration กำลังผลิต 120 เมกกะวัตต์ และพลังไอน้ำ กำลังการผลิตสูงสุด 30 ตัน/ชั่วโมง เป็นตัวที่ทำรายได้ดีให้กับบริษัท
นอกจากนี้การลงทุนในบริษัท เท็กซัส 121 ที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการในประเทศญี่ปุ่น คือโครงการ MoKamI และ Hanamaki กำลังผลิต 3.87 เมกกะวัตต์ มีผู้ร่วมทุนที่แข็งแกร่งอย่าง บริษัท TEPCO เป็นบริษัทพลังงานอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น
" อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ละโครงการ กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 10 % ซึ่งนโยบายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ในปี 2560 ทำให้มีกำไรและกระแสเงินสดกลับเข้ามาในบริษัทในระยะเวลารวดเร็ว สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 / 2559 สามารถพลิกขึ้นมาเป็นกำไร 3,405 % จากที่เคยขาดทุน ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี รวมทั้งรายได้จากการลงทุนในธุรกิจสนามกอล์ฟมาเจสติก ตามสัดส่วนการลงทุน