ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อม วิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้แก่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) โดยมี สุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ ETDA ให้การต้อนรับ ย้ำให้ ETDA ดูแลใน 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การสนับสนุนอีคอมเมิร์ซให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในระดับชุมชน เพื่อให้สินค้าชุมชนเข้าถึงตลาดโลกได้ และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยให้ออกแบบวิธีการทำงานเพื่อให้หน่วยงานและองค์กรภาครัฐ รวมทั้งภาคเอกชนมีความเข้มแข็ง ณ ETDA เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559
ดร.พิเชฐ กล่าวว่า ETDA เป็นองค์กรที่จะต้องได้รับกำลังใจในการทำงาน เพราะทำงานยาก และเข้าใจว่ามีความยากลำบากในการรักษาคนไว้ เนื่องจากกำลังคนในหน่วยงานประเภทนี้เป็นที่ต้องการในตลาดมาก แต่ก็ถือเสียว่าเป็นการผลิตคนทำงานเพื่อสังคมไปด้วยในเวลาเดียวกัน ในฐานะที่ ETDA เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยตรง อนาคตในการทำงานก็จะกระจายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างระบบ เพื่อที่จะให้เป็นมาตรฐานและพื้นฐานในการอ้างอิงให้แก่หน่วยงานหรือสังคมภายนอก ไปจนถึงการเอื้ออำนวยให้ระบบอีคอมเมิร์ซสามารถกระจายความเจริญได้ด้วย โดยเฉพาะในเรื่องอินเทอร์เน็ตชุมชน
"สิ่งที่ให้ ETDA ไว้เป็นหลักการว่าจะออกแบบวิธีการทำงานอย่างไรไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่จะทำให้มีจุดเน้นหรือโฟกัสที่ชัดเจน สามารถจะไปชี้ชวนให้หน่วยงานอื่นเข้ามาทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่และที่กำลังจะมาในอนาคต สามารถที่จะรองรับความต้องการในการทำงานได้ อย่างแรกก็คือ 'อีคอมเมิร์ซ' ซึ่งเป็นเรื่องที่ ETDA ทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า 12 เดือนข้างหน้า อยากให้มีความเข้มข้นในการทำงานระดับชุมชน เพื่อให้สอดคล้องกับอีกหลายงานที่ทางกระทรวงฯ ทำอยู่ เช่นเรื่องอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านที่กระทรวงฯ เพิ่งเปิดตัวร่วมกับทางทีโอทีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะทำให้ ETDA นำระบบไปสวม เพื่อจะได้ช่วยชาวบ้านในการขายของและการทำมาหากิน"
ด้าน สุรางคณา กล่าวว่า มูลค่าอีคอมเมิร์ซของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น 4% ผลกลายเป็น 10% คือจาก 2 ล้านล้านบาท กลายเป็น 2.2 ล้านล้านบาท และคาดการณ์ว่าปี 2559 ตัวเลขจะโตขึ้นเป็น 2.5 ล้านล้านบาท หรือเติบโตขึ้นอีก 10% อีกทั้งคาดการณ์ว่าปี 2560 จะโตขึ้นอีก 10% เช่นกัน แต่หากทำตามนโยบายของ รมว. อย่างจริงจัง ตัวเลขการเติบโตก็จะเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ดร.พิเชฐ กล่าวต่อไปว่า ในเรื่อง "Cybersecurity" นั้นไม่ใชปรากฏการณ์เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อเทคโนโลยีมาก็ต้องรู้เท่าทัน การรู้เท่าทันทำให้แต่ละประเทศจำเป็นต้องมีหน่วยงานอย่าง ETDA ขึ้นมา สร้างคนเก่งที่มีขีดความสามารถสูง สร้างระบบที่มีการป้องกันภัยได้เข้มแข็ง รวมทั้งการให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการกับหน่วยราชการต่าง ๆ ที่มีความต้องการในการสร้างภูมิคุ้มกันในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับระบบของตัวเอง
"ให้ ETDA ไปคิดแพ็กเกจกับสิ่งที่ทำอยู่แล้วเช่นกัน ให้สอดคล้องกับแนวทาง 12 เดือนข้างหน้า เพื่อช่วยทำให้องค์กร โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ที่มีความต้องการ ทยอยทำกันไป เพื่อที่จะทำให้ภาครัฐทั้งหมดที่เข้ามาอยู่ในระบบ จะใช้เวลากี่ปี กี่เดือนก็แล้วแต่ มีความเข้มแข็ง แข็งแรง ทนทาน ต่อการโจมตีหรือสิ่งแปลกปลอม ด้วยวิธีนี้ จะทำให้ e-Government ของประเทศมีความเข้มแข็ง ซึ่งในเรื่องนี้ ETDA ก็มีพันธมิตรที่จะทำงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ทั้งหน่วยงานภายในกระทรวงฯ และหน่วยงานภายนอก" ดร.พิเชฐ กล่าว