นอกจากนี้ "ไอเอฟอีซี" เปิดศักราชปีระกา ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ โดยเซ็นสัญญาขายไฟฟ้าให้กัมพูชา ประเดิมการกลับเข้าสู่ไลน์ "พลังงานทดแทนครบวงจร" และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสู่แผนธุรกิจในปี 2560 นี้
ด้าน นายศุภกร แย้มงามเหลือ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.อินเตอร์ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ในวันนี้ (12 ม.ค.) บริษัทไอเอฟอีซี จะเซ็นสัญญาขายไฟฟ้าให้กับบริษัท MENG SOKLENG CONSTRUCTION AND ELECTRIC จำกัด ประเทศกัมพูชา
ซึ่งการขายไฟฟ้าครั้งนี้เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของไอเอฟอีซี ในการออกไปดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ประเทศกัมพูชา โดยเป็นไปตามแผนธุรกิจในปี 2560 สู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานครบวงจรซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท
สำหรับโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งอยู่ที่อำเภอ 4 สกัด โตนเลบาสะ คันจอม กาโมน พนมเปญ โดยไอเอฟอีซี ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลกัมพูชาทั้งสิ้น 20 เมกะวัตต์ และขณะนี้เริ่มทดลองผลิตแล้ว 2 เมกะวัตต์ ส่วนเฟสต่อไปจะผลิต 5-8 เมกะวัตต์ ก่อนที่จะผลิตเต็มกำลังต่อไป
"ลักษณะกิจการไฟฟ้าในกัมพูชาแตกต่างกับประเทศไทย คือเสาไฟฟ้ามีทั้งของภาครัฐและเอกชน ที่ผ่านมาโครงการของเราอยู่ห่างจากเสาไฟฟ้าพอสมควร แต่ถึงวันนี้เราโชคดีที่เสาไฟฟ้าของเอกชนรายนี้ พาดผ่านโครงการของเรา จึงสามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ในทันที ซึ่งหลังจากนี้บริษัทจะเร่งขายไฟฟ้าเข้าระบบตามจำนวนที่ได้รับอนุญาตให้เร็วที่สุด โดยการเซ็นสัญญาขายไฟให้กับทางกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสู่การเดินหน้าขับเคลื่อนแผนธุรกิจในปี 60 ที่เป็นรูปธรรม สอดรับกับการกลับเข้าสู่ไลน์ธุรกิจหลักของ ไอเอฟอีซี อีกด้วย"