รศ.ดร. อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ศุกร์ ๑๓ มกราคม ๒๐๑๗ ๑๖:๐๘
เปิดเผยถึงการวิเคราะห์ทิศทางการส่งออกของไทย ปี 2560 ว่า การส่งออกไทยปี 2560 ส่งสัญญาณฟื้นตัว คาดว่าการส่งออกจะมีมูลค่า 221,583 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือขยายตัวร้อยละ 2.8 ( อยู่ในช่วง 218,403 ถึง 224,635 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือขยายตัวร้อยละ 1.3 ถึง 4.2)

โดยการส่งออกสามารถขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น (ขยายตัวมากสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2555) และอาเซียน รวมถึงประเทศทางตะวันออกกลาง แต่ทั้งนี้ต้องจับตามมองการส่งออกไปจีน (หดตัวต่อเนื่อง 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2557) และอียู ที่อาจชะลอลง

โอกาสการส่งออก ปี 2560 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มทิศทางฟื้นตัว เป็นปัจจัยหลักให้การส่งออกในภาพรวมขยายตัวดีขึ้น , การอ่อนลงของค่าเงินบาท ส่งผลให้ไทยมีความได้เปรียบในด้านราคาส่งออกมากขึ้น อย่างไรก็ตามค่าเงินในภูมิภาคมีแนวโน้มอ่อนลงเช่นกัน , ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ไทยส่งออกไปประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น , ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย และการค้าชายแดน / ผ่านแดนรวมขยายตัว

ความเสี่ยงการส่งออก ปี 2560 การชะลอตัวเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้ไทยส่งออกไปจีนได้ชะลอลง , การกีดกันทางการทางค้าของ Trump ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อไทย , ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยุโรป (เช่น Brexit และการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี) มีผลให้ไทยส่งออกไป EU ชะลอลง และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มีผลให้ต้นทุนการผลิตของไทยสูงขึ้น

การขยายตัวของการส่งออกไปยังประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้นขยายตัว ตลาดจีนชะลอตัวจากนโยบายลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ และผลกระทบทางอ้อมจากการที่จีนโดนนโยบายด้านการค้าของ Trump ตลาดอาเซียนเดิมและอาเซียนใหม่ยังคงขยายตัวได้ดีจากปัจจัยบวก AEC อย่างไรก็ตาม ไทยมีแนวโน้มพึ่งพาตลาดเดิมอย่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นมากขึ้น แต่ต้องระวังการชะลอตัวในตลาด EU

คาดการณ์ค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยังคงอ่อนไหว ในภาพรวมปี 2560 คาดว่าค่าเงินจะมีทิศทางอ่อนค่าลงค่าเงินหยวนของจีนคาดว่าจะมีทิศทางอ่อนค่าลง จากการที่ปัจจัยที่ยังคงมีเงินทุนไหลออก โดยคาดว่า จีนจะมีค่าเงินอ่อนลง ลำดับที่ 1 ญี่ปุ่น ลำดับที่ 2 และไทย ลำดับที่ 3

ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันนำเข้าเพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นการเพิ่มต้นทุนให้ผู้ส่งออกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ จะต้องจับตามองนโยบายการผลิตของกลุ่ม OPEC และนโยบายด้านเศรษฐกิจและพลังงานของสหรัฐอเมริกา

ราคาสินค้าเกษตรในปี 2560 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิตของสินค้าเป็นหลัก ทั้งนี้ในปี 2559 ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดต่ำลง เนื่องจากผลผลิตที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในปี 2559 โดยในกลุ่มธัชพืชลดล

ถึง -6.8% เนื่องจากปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในสหรัฐฯ และ ข้าวสาลีในออสเตรเลียและเอเชียกลางที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

การส่งออกข้าวของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2560 จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และสต็อกข้าวที่ยังคงเหลืออยู่ โดยคาดว่าจะสามารถส่งออกไปจีนได้มากขึ้น ตามสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล ในปี 2560 คาดว่าประเทศผู้นำเข้า เช่น จีน และ ฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้น

การส่งออกของการค้าชายแดน ปี 2560 คาดว่าจะขยายตัว 3.6% หรือ เป็นมูลค่า 17,858 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (7.1% หรือ 651,817 ล้านบาท) ถ้านับรวมการส่งออกของการค้าชายแดน/ผ่านแดนรวม ปี 2560 คาดว่าจะขยายตัว 3.9% หรือ เป็นมูลค่า 20,305 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (7.4% หรือ 741,122 ล้านบาท)

การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-10 บาท ไม่ส่งผลกรทบต่อต้นทุนการผลิต และการดำเนินธุรกิจมากนัก โดยเพิ่มเพียง 2% แต่อาจจะกระทบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานหลักเล็กน้อย เช่น สิ่งทอ

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีน นโยบายลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของจีนนโยบาย Trump ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าและบริการจีนเพิ่มเป็น 45% ถ้าจีนยังคงใช้นโยบายค่าเงินอ่อน ส่งผลกระทบให้ไทยส่งออกไปจีนได้ชะลอลง สินค้าหลักที่ได้รับผลกระทบ ทางตรง อาทิ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ทางอ้อมจาก Trump อาทิ เครื่องจักรไฟฟ้า/อุปกรณ์ไฟฟ้า, เครื่องจักร/เครื่องกล

ผลกระทบนโยบายการค้าของ Trump ต่อการส่งออกไทย การเก็บภาษีนำเข้าสินค้าและบริการจีนเพิ่มเป็น 45% ถ้าจีนยังคงใช้นโยบายค่าเงินอ่อน สหรัฐฯ นำเข้าจากจีนมากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 21.5% รองลงไปคือเม็กซิโก และ แคนาดา เป็น 13.2% เท่ากัน สหรัฐฯ นำเข้า เครื่องจักรไฟฟ้า/อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักร/เครื่องกล และยานยนต์มากที่สุด คิดเป็น 14.6, 14.4 และ 12.4% ตามลำดับ ในตลาดสหรัฐฯ จีนครองตลาดเครื่องจักรไฟฟ้า/อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักร/เครื่องกล ส่วนเม็กซิโก ครองตลาดยานยนต์

นโยบาย Trump จะส่งผลกระทบทางอ้อมให้ไทยส่งออกไปจีนได้ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า เครื่องจักรไฟฟ้า/อุปกรณ์ไฟฟ้า (วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และ วงจรพิมพ์ เป็นต้น) และเครื่องจักร/เครื่องกล (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น) ไทยมีโอกาสขยายตลาดในสหรัฐฯ ในกลุ่มเครื่องจักร/เครื่องกล เครื่องจักรไฟฟ้า/อุปกรณ์ไฟฟ้า และยางพาราและผลิตภัณฑ์ (นโยบาย Trump ที่พยายามดึงนักลงทุนกลับประเทศจะส่งผลบวกให้สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าขั้นกลางเพื่อเป็นใช้ในการผลิตเพิ่มขึ้น)

ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองยุโรป ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยุโรปในปี 2560 กระทบการส่งออกไทย ในปี 2559 ไทยส่งออกไปในตลาด EU (15) ร้อยละ 9.2 หรือประมาณ 19,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-10 บาท ไม่ส่งผลกรทบต่อต้นทุนการผลิต และการดำเนินธุรกิจมากนัก โดยเพิ่มเพียง 2% แต่อาจจะกระทบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานหลักเล็กน้อย เช่น สิ่งทอ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ