วอลโว่ กรุ๊ป เชื่อมั่นตลาดรถบรรทุกฟื้น

จันทร์ ๑๖ มกราคม ๒๐๑๗ ๑๗:๐๑
- ปี 59 ส่งสัญญาณฟื้นตัวด้วยการเดินหน้าโครงการภาครัฐ

- ปี 60 การเติบโตจะต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ยังส่งแรงกระตุ้นต่อเนื่อง

บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกแกร่งสายพันธุ์สวีเดน วอลโว่ ทรัคส์ และรถบรรทุกสายเลือดอาทิตย์อุทัย ยูดี ทรัคส์ เชื่อมั่นตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่ในประเทศไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตติดต่อกันเป็นปีที่สอง หลังจากที่ตลาดหดตัวอย่างต่อเนื่องถึง 2 ปี

นายกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตประมาณ 7% ซึ่งเปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2558 ที่ตลาดหดตัวมากกว่า 20% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการกระตุ้นจากภาครัฐในการเดินหน้าโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ รวมถึงภาวะภัยแล้งที่ประเทศไทยประสบจากวิกฤติการณ์เอลนีโญมาหลายปีติดต่อกัน ได้เริ่มคลี่คลายเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้ตามปกติ ในขณะที่พืชผลทางการเกษตรที่อิงกับราคาเชื้อเพลิง เช่นยางพารา เป็นต้น เริ่มกระเตื้องตามภาวะราคาน้ำมันดิบ ขณะเดียวกัน เมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นปีที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซี่ยนหรือ AEC ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความต้องการจากภาคขนส่งสินค้าข้ามแดน

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการประชารัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม เช่นโครงการการเบิกจ่ายเงินลง 74,655 หมู่บ้าน ทั่วประเทศ หมู่บ้านละ 2.5 แสนบาท ตามโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐประจำปีงบประมาณ 2560 และโครงการเติมเงินลงทุนจังหวัดและกองทุนหมู่บ้าน 1 แสนล้านบาท โดยการกระตุ้นเหล่านี้ กระทรวงการคลังเชื่อมั่นว่าจะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2560 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4% จากปัจจุบัน 3%

"เราได้เล็งเห็นสิ่งเหล่านี้และที่สำคัญคือการเดินหน้าเมกะโปรเจ็คของรัฐบาล ทำให้เรามีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะมีอัตราเติบโตตามแรงกระตุ้น ซึ่งหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจ ได้ตอกย้ำความเชื่อมั่นถึงการฟื้นตัวเศรษฐกิจของไทย เราจึงมั่นใจว่าตลาดรถใหญ่ น่าจะได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นทางภาครัฐด้วย" นายกำลาภ กล่าว

นายกำลาภ กล่าวว่าภาคธุรกิจที่จะมีส่วนต่อการกระตุ้นความต้องการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ ได้แก่ภาคการก่อสร้าง ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และปีนี้ จะยังคงมีบทบาทต่อการกระตุ้นความต้องการใช้รถใหญ่ ทั้งนี้เพราะการเดินหน้าโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐบาล ประกอบกับภาคการขนส่งสินค้าที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูงเช่นวัตถุอันตรายและน้ำมันเชื้อเพลิง จะยังคงมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรถบรรทุกทั้งวอลโว่ ทรัคส์ และยูดี ทรัคส์ สามารถตอบสนองตลาดกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี จึงน่าจะได้รับผลดีจากการเติบโตในปีนี้

สำหรับข้อกังวลในปี 2560 นายกำลาภ กล่าวว่าว่าปัจจัยที่จะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดคือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในปี 2560 ซึ่งหากเป็นไปตามกำหนดการดังกล่าว จะมีส่วนส่งเสริมการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างราบรื่น

ในขณะที่การเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 ของโลก เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกาถือเป็นคู่ค้าอันดับต้น ๆ ของเศรษฐกิจหลักทั่วโลกและประเทศไทย โดยนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาที่หาเสียงไว้ มีนโยบายกีดกันทางการค้า หากเป็นเช่นนั้นย่อมส่งผลกระทบทางด้านลบต่อประเทศคู่ค้าของสหรัฐอเมริกา แต่ประเทศไทยมีการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ประมาณ 10% ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบไม่มากนัก

"ราคาน้ำมันในตลาดโลก ก็เป็นอีกปัจจัยที่เราต้องเฝ้าติดตาม เพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศไทย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังตลอดปีใหม่นี้" นายกำลาภ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายกำลาภ กล่าวว่าขณะนี้ค่ายวอลโว่ กรุ๊ป กำลังพิจารณาการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาด

ในปีที่แล้ว ค่ายวอลโว่ กรุ๊ป มียอดขายทั้งสิ้น 1,191 คัน เพิ่มขึ้น 17% โดยเป็นยอดขายจากวอลโว่ ทรัคส์ 391 คัน ในขณะที่ยอดขายยูดี ทรัคส์ 800 คัน เพิ่มขึ้น 56% จาก 512 คันในปี 2558 ซึ่งการเติบโตในส่วนของยูดี ทรัคส์ นั้น นอกจากจะมาจากการฟื้นตัวของตลาดที่เกิดจากการกระตุ้นของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างแล้ว ยังเกิดจากการเข้าสู่ AEC ของประเทศไทย ทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากธุรกิจ Logistics ที่ต้องจัดหารถบรรทุกเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วอลโว่ กรุ๊ป ได้ทุ่มเงินลงทุนขยายเครือข่ายไปถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะเริ่ม AEC ได้ 1 ปี เพื่อรองรับกับตลาดที่จะฟื้นตัวและความต้องการจากภาคขนส่งสินค้าผ่านแดนจากข้อตกลงของ AEC โดยประเทศไทยอยู่ในทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางของ AEC

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version