บลจ.กสิกรไทย บูมกระแสการลงทุน เตรียมออกขาย “กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 10/49 ” ระหว่างวันที่ 1 — 9 กันยายน นี้

พุธ ๓๑ สิงหาคม ๒๐๐๕ ๑๗:๓๒
กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดขายกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 10/49 (RG1049) เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ระหว่างวันที่ 1-9 ก.ย. นี้ รองรับความต้องการลงทุนระยะสั้นของนักลงทุนในขณะนี้
นางดัยนา บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า “บลจ.กสิกรไทย ตอบรับความต้องการนักลงทุนในขณะนี้ พร้อมออกขายกองทุนใหม่ในตระกูลธนรัฐอีกหนึ่งกองทุนคือ กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 10/49 เปิดขายครั้งเดียวในระหว่างวันที่ 1-9 กันยายน นี้ ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำเพราะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่รัฐบาลออกหรือค้ำประกัน เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ พันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน เงินทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ หรือ เงินฝากของสถาบันการเงิน หรือ ธนาคาร ที่มีกฏหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และ ในหลักทรัพย์ หรือ สินทรัพย์อื่นที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ก.ล.ต. โดยมีระยะเวลาลงทุนในกองทุนประมาณ 1 ปี ”
กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 10/49 (RG1049)มีขนาดกองทุน 7,000 ล้านบาท และอายุโครงการ 10 -13 เดือน รับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ 4 งวด มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนระยะสั้นที่มีความเสี่ยงต่ำและมุ่งหวังผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับจากดอกเบี้ยหรือกำไรส่วนเกินจากการลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรอื่นที่รัฐบาลค้ำประกัน
“ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อหน่วยลงทุนขั้นต่ำเพียง 50,000 บาท โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือซื้อหน่วยลงทุนได้ที่ ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา และ บลจ.กสิกรไทย โทร 0-2276-2233 ” นางดัยนา กล่าว
นางดัยนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปี 2548 บลจ.กสิกรไทยได้เปิดขายกองทุนในตระกูลรวงข้าวธนรัฐมาแล้วจำนวน 8 กองทุน ด้วยยอดขายรวมกว่า 42,829.54 ล้านบาท โดยกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 8/49 เอ เป็นกองทุนที่ปิดการขายล่าสุดด้วยยอดขายกว่า 6,477.30 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้ลงทุนในสภาวะดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่าอัตราเงินเฝ้อ ส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ของ บลจ.กสิกรไทย ได้รับความสนใจจากนักลงทุนด้วยดีมาตลอดตั้งแต่ต้นปี 2548”
บลจ.กสิกรไทยได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 4 อันดับ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), Merrill Lynch Investment Managers, บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด และบริษัท เมืองไทยโฮลดิ้ง จำกัด โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 บลจ.กสิกรไทยมีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ 183,547.27 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจจัดการลงทุนในประเทศไทย
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
บ.นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
นฤพร ชีวนันทพรชัย / ประมวลเกียรติ ธรรมากรนนท์
(02) 631-2290-5 ต่อ 307 / แฟกซ์ (02) 234-6192-3
E-Mail: [email protected] / [email protected]
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ