กรมบัญชีกลาง พร้อมจ่ายตรงเงินเดือนให้แก่ สพฐ. เริ่มเดือนแรก ม.ค. 60

พฤหัส ๑๙ มกราคม ๒๐๑๗ ๐๙:๕๙
กรมบัญชีกลาง พร้อมจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำของ สพฐ. ในเดือนมกราคม 2560 จำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 15,619 ล้านบาท เน้นการจ่ายเงินที่รวดเร็ว ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดและสามารถตรวจสอบได้เป็นหลัก

นางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง พร้อมจ่ายเงินเดือนและค่าจ้างประจำจากกรมบัญชีกลางเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เริ่มเดือนมกราคม 2560 เป็นเดือนแรก จำนวน 420,125 ราย รวมเป็นเงินกว่า 15,619 ล้านบาท

ทั้งนี้โครงการจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำ ดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 โดยเริ่มจากส่วนราชการที่มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการก่อน จนถึงปัจจุบันมีส่วนราชการเข้าร่วมแล้ว 224 ส่วนราชการ ซึ่ง สพฐ. เป็นหน่วยงานสุดท้ายที่เข้าร่วมโครงการฯ นี้ นอกจากนี้ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 50 ให้ส่วนราชการผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 หักภาษีเงินได้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน (เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ) ดังนั้น ในกรณีนี้จึงดำเนินการหักภาษีไว้ เช่นเดียวกับส่วนราชการอื่นที่เข้าร่วมโครงการมาก่อนหน้านี้

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า โครงการจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำ ที่ดำเนินการในส่วนของ สพฐ.จะทำให้บุคลากรของ สพฐ. ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และเงินวิทยฐานะผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตรงตามระยะเวลาที่กรมบัญชีกลางกำหนดทุกเดือน ช่วยลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ลดค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสารขอเบิก และการโอนเงินและทำให้มีฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐเต็มรูปแบบเพื่อใช้ในการบริหารบุคลากรและงบประมาณได้

สำหรับหนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในปี พ.ศ. 2559 ส่วนราชการแต่ละแห่งจะจัดส่งหนังสือดังกล่าวให้ข้าราชการ ลูกจ้าง ผู้รับเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญโดยตรง นอกจากนี้กรมบัญชีกลางได้เพิ่มช่องทางการให้บริการของผู้รับเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ โดยสามารถเข้าไปที่ www.cgd.go.th ในหัวข้อบำเหน็จบำนาญ/บำเหน็จค้ำประกัน ซึ่งผู้รับบำนาญที่ยังไม่เคยลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายเงินด้วยตนเองผ่านระบบ E-Filing สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 2560 เป็นต้นไป และพิมพ์หนังสือรับรองดังกล่าว ได้ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. 2560 เป็นต้นไป

"กรมบัญชีกลาง ในฐานะหน่วยงานกลาง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินและของหน่วยงานภาครัฐให้เป็นไปอย่างถูกต้อง มีวินัย คุ้มค่า โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ โดยความสำเร็จของโครงการนี้ เกิดจากรัฐบาลและกระทรวงการคลังมีนโยบายที่จะผลักดันการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสดตามโครงการ National e-Payment เพื่อลดการใช้ธนบัตรและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาคธุรกิจ ด้วยการใช้ระบบ e-Payment เพื่อเป็นกลไกสำคัญของการทำธุรกรรมทางการเงินในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากเลขาธิการ สพฐ." นางสาวอรนุช กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version