นายอภิรักษ์ จิตรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานดำเนินงานประกันชีวิต บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับลูกค้าในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัยทางภาคใต้ จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง กระบี่ และ ประจวบคีรีขันธ์ จึงพิจารณาขยายระยะเวลาการขอกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ การยกเว้นดอกเบี้ย และการต่ออายุกรมธรรม์แบบอัตโนมัติ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.กรมธรรม์ประกันชีวิตที่ครบกำหนดชำระเบี้ยประกันภัย หรือระยะเวลาผ่อนผัน หรือมีการเปลี่ยนแปลงสถานะกรมธรรม์โดยอัตโนมัติ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ หรือสิ้นผลบังคับ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560 ถึง วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560 หากลูกค้าชำระเบี้ยต่ออายุ ภายใน 60 วันนับจากวันที่กรมธรรม์สิ้นผลบังคับ หรือกรมธรรม์เปลี่ยนสถานะ บริษัทจะดำเนินการต่ออายุและกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ โดยยกเว้นดอกเบี้ยและความคุ้มครองภายใต้สัญญาเพิ่มเติมที่แนบท้ายกรมธรรม์จะมีความคุ้มครองต่อเนื่องจากวันที่ครบกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยเดิม
2.หากลูกค้าไม่สามารถชำระเบี้ยต่ออายุได้ภายใน 60 วันตามที่ระบุไว้ข้างต้น หากมาขอต่ออายุกรมธรรม์ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ครบกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยเดิม บริษัทฯ จะพิจารณาต่ออายุกรมธรรม์ตามกฎเกณฑ์การต่ออายุของบริษัทฯ โดยของดการตรวจสุขภาพ และยกเว้นดอกเบี้ยต่ออายุ
3.สำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีการนำมูลค่าเวนคืนเงินสดมากู้ชำระเบี้ยประกันภัยโดยอัตโนมัติ (APL) ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560 ถึง วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560 หากผู้เอาประกันภัยขอชำระคืนเงินกู้อัตโนมัติภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ครบกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยเดิม บริษัทจะยกเว้นการเรียกชำระดอกเบี้ยเงินกู้ของเงินต้นจากเงินกู้ชำระเบี้ยอัตโนมัติที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวให้แก่ผู้เอาประกันภัย
ทั้งนี้ลูกค้าที่ประสบภัยดังกล่าวสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าเอฟดับบลิวดี โทร. 0-2632-6000 เวลา 8.00 – 20.00 น. ทุกวัน
"เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต ขอแสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวใต้ผู้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่นี้ โดยทางบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความช่วยเหลือจากเอฟดับบลิวดี จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ทุกท่านได้บ้างไม่มากก็น้อย เพราะเราจะร่วมก้าวผ่านปัญหาอุทกภัยครั้งนี้ไปด้วยกัน" นายอภิรักษ์กล่าวทิ้งท้าย